
จ่าคิงส์ พา 2 แม่ลูกประสบอุบัติเหตุ ถูกรถเมล์เฉี่ยวชนบาดเจ็บสาหัส แต่กลับถูกแจ้งข้อหาว่าเป็นฝ่ายผิด
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 ที่บริเวณริมทางเท้าถนนพหลโยธิน หน้าตลาดนัดรถไฟ แดนเนรมิตเก่า ใกล้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ ธมะนันท์ แตงทิม อดีต สห.ทอ. ตัวแทน เพจสะพานใหม่ พานางน้ำทิพย์ แดงดำรงค์ อายุ 45 ปี และ ด.โจริเฟอร์ แดงดำรงค์ อายุ 13 ปี ผู้เสียหายสองแม่ลูกมาร้องขอความเป็นธรรมตำรวจสอบสวนกลาง กรณีถูกรถเมล์ (ขสมก.) สาย 82 เฉี่ยวชน ปากซอยสุขสวัสดิ์ 14 ถนน แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม. จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มี.ค.67 เวลา 16.46 น. ผ่านมา 9 เดือน
นางน้ำทิพย์ เปิดเผยว่า ตามวันเวลาดังกล่าว ลูกตนโดนรถเมย์เกี่ยวลากไปประมาร 4-5 เมตร ผู้โดยสารบนรถตะโกนเรียกไม่ยอมหยุด จนรถได้หยุดแล้วคนขับลงมาบอกว่า ผมไม่ผิด ผมไม่ได้ยิน เพราะผมใส่หูฟังอยู่ จากนั้นมีผลเมืองดีมาดูและเรียกกู้ภัยมาช่วยคนเจ็บ ขณะเกิดเหตุ คนขับรถ ขสมก.คันดังกล่าวพูดอ้างตลอดเวลาว่า ผมไม่ผิด ไม่ช่วยเด็ก จนผลเมืองดีบอกว่าลุงอย่าเพิ่งพูด ช่วยกันพาเด็กส่งโรงบาลก่อนดีกว่า ก่อนจะช่วยกันพาจนเจ็บส่งรพ.รักษาตัว หลังจากนั้น ทางตำรวจสน.บางคอแหลม ท้องที่เกิดเหตุได้โทร.มาแจ้งให้คุณแม่ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน แต่ถ้ายังไม่ก็จะตร.จะลงให้ก่อน
ตนจึงรีบเดินทางไปยัง สน.บางคอแหลม ยังไม่ทันเดินขึ้นไปโรงพักก็มีตำรวจนายหนึ่ง มายืนดักรอเรียกหน้า สน.บางคอแหลม บอกว่า คุณแม่มาดูกล้องก่อน จะเห็นว่าฝั่งลูกคุณแม่เป็นฝ่ายผิด ตนถามกลับไปว่า ทำไมรีบตัดสินว่าฝ่านหนูผิด ก่อนจะขอให้เขาไปคุยในห้องสืบสวนดีกว่าไหม เมื่อเข้าไปก็เห็นคนขับรถ ขสมก.นั่งอยู่ในห้องสืบสวนแล้ว พอเข้าไปในห้องสืบสวน ตำรวจไม่ได้ถามอะไรหรือคุยอะไรเลย และตำรวจก็พิมลงบันทึกประจำวันเลย
พอพิมเสร็จตำรวจอ่านให้ฟัง ตนเลยพูดกลับไปว่าไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเลยยกเลิกสำนวนนั้น ก่อนจะเขียนขึ้นมาอีกฉบับหนึ่ง เป็นว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถ (ทรัพย์สิน) ผู้อื่นเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้นให้ตนเซ็นบันทึกการแจ้งความ จากนั้นแยกย้ายกันไป ตนได้กับไปดูลูกที่โรงพยาบาลบางกอก 9 หลังจากนั้นมีหัวหน้าหน่วย ขสมก. มาที่โรงพยาบาล 2 คน บอกว่าให้ฝ่ายเรารักษาเด็กไปก่อน ถ้าประกันหมดให้ใช้สิทธิรักษาบัตร 30 บาทต่อ เขาแจ้งว่าไม่สามารถให้ใช้ประกันของขสมก.ได้ วันรุ่นขึ้น (4 มี.ค. 67) แพทย์ที่ รพ.บางประกอก 9 แจ้งว่าต้องย้ายคนไข้ไปผ่าตัดด่วนเพราะมีอาการท้องบวมเนื่องจากอาจมีเลือดไหลในท้องหาสาเหตุไม่ได้ เลยส่งตัวไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เข้าห้อง ไอซียู. ยังผ่าตัดไม่ได้เพราะความดันขึ้นสูง ผ่าตัดไม่ได้
ระหว่างรอก็มีหมอมาผ่าขาใส่เหล็กดึงเอ็นที่หัวเข่า ระหว่างนั้นเด็กทรมารตลอดจนต้องขอยาบ่อยครั้ง มีไข้ขึ้นสูง นอนอยู่ ไอซียู. 5 วัน นอนรอผ่าตัดห้องธรรมดา ร่วมๆ 10 กว่าวัน ตนได้โทร.หาคนขับรถ ขสมก.ที่ขับชน จยย. ว่าน้องจะผ่าตัดแล้วนะไม่มาดูหน่อยหรือ เขาตอบกับมาว่า เขาไม่มีเงิน จากนั้นเขาไม่เคยมา หลังจากนั้น ตำรวจได้โทร.หาเขาแนะนำว่า ให้ไปเยี่ยมเด็ก แต่เขาก็ไม่มาเลยสักครั้ง ในระยะเวลาที่เกิดเหตุรักษาพยาบาล ตำรวจ สน.บางคอแหลม พูดทุกครั้งว่าให้รักษาน้องให้หายก่อน แล้วเราค่อยมาเจรจากัน
จากนั้น ตนได้ดูแลน้องคนเดียว งานการก็ไม่ได้ไปทำ ดูแลรักษาจนอาการดีขึ้น แต่พอไปที่ สน.บางคอแหลม ตำรวจบอกว่า ให้เราพาลูกมาพบอัยการก่อนสอบสวนเด็ก พอผ่านมา 2 เดือนตน โทร.ไปถามว่า คดีไปถึงไหน เขาบอกว่า เขาติดคดีอื่นอยู่ ผ่านไปอีก 1 เดือน ตำรวจเขา โทร.มาบอกว่าให้ตนไปพบ เพื่อจะเช็นใบขึ้นศาล ตนถามว่าเอาใครไปด้วยได้ไหม เขาบอกไม่ต้อง ให้คุณแม่มาคนเดียว ด้วยความซื่อของตนก็ไปคนเดียว
พอไปถึงตำรวจก็ดักรอหน้า สน.บางคอแหลมอีก ให้จอดรถตรงนี้ ได้พูดว่า คุณแม่ต้องเช็นเอกสาร ตนถามว่าเอกสารอะไร เขาบอกว่า คุณแม่ต้องเซ็นรับผิดก่อนถึงจะขึ้นศาลได้ แล้วไปแก้ตัวในศาล ตำรวจได้พูดขึ้นว่า แม่มีความผิด ยังไงแม่ก็ต้องเซ็น ไม่งั่นจะออกหมายเรียกหมายจับแม่ ตนเลยบอกว่าถ้าจะจับก็จับไปเลย เพราะไม่รู้ตัวว่าผิดตรงไหนทั้งที่ลูกเจ็บมาตลอดไม่มีคนมาเยียวยา หรือมาดูดำดีไม่เคยมาถาม มีแต่แม่โทร.ไปสอบถามมาโดยตลอด พอตำรวจบอกว่าจะออกหมายจับแม่ ตนทุกข์ใจมาก เคียดจนคิดที่จะชวนลูกฆ่าตัวตายไปด้วยกันจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกันสองคนแม่ลูกอีก
นึกขึ้นได้ว่าจะลองไป ขอความช่วยเหลือ จาก จ่าคิงส์ แตงทิมสะพานใหม่ ก่อนดีกว่าเพราะ ชีวิตไม่มีที่พึ่งตรงไหนเลย พอดูก็นึกขึ้นได้ เลยรวมหลักฐานทั้งหมด ละมาขอร้องเรียนจาคิงส์ แตงทมิ สะพานใหม่ ให้ช่วย ตนมีลูก 3 คน ด.ญ.โจริเฟอร์ เป็นลูกสาวคนเล็ก เกิดกับนายปิแอร์ เอ็นด์จานำ คุณพ่อเป็นอดีดนักฟุตบอล สโมสรมาตราพุด ปี 2011 อยู่ประเทศไทยช่วง2551 - 2555 และได้เดินทางกลับประเทศ จากวันนั้นจนวันนี้ 8 ปีแล้วที่กับประเทศไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน