
ผู้ว่าสั่งตรวจสอบโรงงานผลิตปลาร้า หลังพบคนงานเสียชีวิต
วันที่ 10 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้ นายพสุ สุครีวก อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในกรณีที่พบผู้เสียชีวิต 5 ราย ในบ่อหมักปลาร้า ณ บริเวณโรงงานผลิตปลาร้า เลขที่ 79 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมูลนิธิร่วมกตัญญูเพชรบูรณ์ ได้นำร่างผู้เสียชีวิต ขึ้นมาจากบ่อ และพนักงานสอบสวนได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพชรบูรณ์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มสัก ร่วมทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต
โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ปรากฎว่า การประกอบกิจการไม่มีการใช้เครื่องจักร และมีคนงานเพียงจำนวน 6 ราย ดังนั้น ลักษณะดังกล่าว จึงไม่เข้าข่ายโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 แต่อย่างใด
อนึ่ง การประกอบกิจการโรงงาน ตามกฎหมายโรงงานหมายถึง โรงงานที่มีการใช้คนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือมีการใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไป จึงจะเข้าข่ายโรงงาน
สำหรับสถานที่ดังกล่าวเดิมเป็นโรงเลี้ยงไก่ ต่อมาเจ้าของได้ปรับปรุงเป็นสถานที่สำหรับผลิตน้ำปลาร้า ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้สั่งการให้ อบต.หนองไขว่เข้าไปตรวจสอบว่าได้ขออนุญาตดำเนินกิจการหรือไม่ รวมทั้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุขอำเภอเข้าไปตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวประกอบกิจการถูกสุขลักษณะอนามัยหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่าสำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นคาดว่าคนงานทั้ง 4 คนได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดบ่อแต่น้ำที่ล้างผสมกับหัวเชื้อปลาร้าที่ตกค้างได้เกิดแก๊สพิษรุนแรงจนหมดสติ ส่วนนายกุลชาติ อำนวยมงคลพร ซึ่งเป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้าอาจเข้ามาติดตามคนงานและพบคนงานหมดสติจึงพยายามเข้าช่วยเหลือก่อนหมดสติตามไปด้วยและเสียชีวิตพร้อมคนงานรวม 5 ศพ
เบื้องต้นได้ส่งศพทั้ง 5 รายนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งคงต้องใช้เวาระยะหนึ่งเนื่องจากมีแพทย์ชันสูตรเพียงท่านเดียว และนอกจากนั้นยังนำตัวอย่างเลือดของทั้ง 5 ศพ ส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
และในวันนี้กรมควบคุมมลพิษทางอากาศเขต 2 พิษณุโลกจะได้นำเครื่องมือมาตรวจวัดมลพิษในห้องเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้นำสังกะสีหลังคามาปิดไว้ในสภาพเดิม เพื่อให้ปริมาณมลพิษคงอยู่ใกล้เคียงขณะเกิดเหตุให้มากที่สุดเพื่อตรวจวัดให้ได้ผลที่แน่ชัดอีกครั้งว่าสูงกว่าอัตรากฎหมายกำหนดหรือไม่
ด้านนายวินัย ศรีวิไล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 2 ต.ปากดุก อ.หล่มสัก ซึ่งเป็นคนงานและเป็นผู้พบศพคนแรกเปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้มีพนักงานรวมตนเองด้วย 6 คน ในวันเกิดเหตุตนและเพื่อคนงานอีกคน ขับรถนำปลาร้าไปส่งที่จังหวัดเลย ส่วนผู้ตายที่เป็นคนงานอีก 4 คน อยู่โรงงานและวันนี้กำลังช่วยกันล้างบ่อหมักปลาร้าเตรียมรับปลาที่จะมาส่งในวันพรุ่งนี้เพื่อทำการหมักในหม่อหมักดังกล่าว กระทั่งช่วงเย็นตนทั้งสองได้เดินทางกลับมาที่โรงงานก็ไม่พบใคร จึงร้องเรียกตะโกนแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงได้เดินเข้าไปในห้องหมักปลาร้าและใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถือส่องจนพบร่างของเพื่อนคนงานและนายกุลชาติ อำนวยมงคลพร อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้านอนแน่นิ่งอยู่ก้นบ่อ ตนจึงได้ไปเขย่าร่างของนายหลำพบว่าไม่ไหวติงแล้วจึงรีบออกมาโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเพชรบูรณ์ รายงาน