บุกรวบพี่เขยหื่น ลวงน้องเมียวัย 10 ปี ล่วงละเมิดทางเพศ ถ่ายคลิปขายกลุ่มลับ

บุกรวบพี่เขยหื่น ลวงน้องเมียวัย 10 ปี ล่วงละเมิดทางเพศ ถ่ายคลิปขายกลุ่มลับ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผบก.สอท.1 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พ.ต.ท.เอกรินทร์ สนนาค สว.กก.2 บก.สอท.2, ร.ต.อ.สุรัตน์ เกื้อกูลวงศ์ รอง สว.กก.2 สอท.2 กำลังตำรวจ สภ.เกาะสีชัง และกำลังตำรวจน้ำ เปิดปฏิบัติการ “safe angle” จับกุมนายเศรษฐวุฒิ อายุ 23 ปี มีอาชีพดูแลสินค้าทางการเกษตรบนเรือ ชาว จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่ จ.537/2567 ลงวันที่ 28 พ.ย. ในความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กที่อายุไม่ถึงสิบสามปีซึ่งไม่ใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.จตช. ที่เน้นย้ำในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จึงเร่งรัดให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่คลิปลามกอนาจาร โดยเฉพาะการเผยแพร่คลิปลามกเด็กและเยาวชนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ ซึ่งเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ที่มีอัตราโทษตามกฎหมายที่ร้ายแรง

จึงได้มีมาตรการเชิงรุก สั่งการและบูรณาการในการติดตามสถานการณ์ เพื่อปฏิบัติการสืบสวนป้องกันปราบปราม และได้มีโครงการสายตรวจไซเบอร์เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว

ต่อมาสายตรวจไซเบอร์ และกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ตรวจสอบพบมีการประกาศขายสื่อลามกอนาจารเด็ก ในกลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ของแอปพลิเคชันเทเลแกรม ซึ่งมีสมาชิก 21,571 คน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวปรากฏภาพว่ามีเด็กหญิงอายุประมาณ 10-13 ปี ถูกใช้กำลังบังคับล่วงละเมิดทางเพศบนเรือ ทางชุดสืบสวนจึงทำการแกะรอยพิสูจน์ทราบหาผู้กระทำผิดและผู้เสียหาย กระทั่งพิสูจน์ทราบตัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งตัวเหยื่อยังอยู่ใกล้ชิดกับผู้กระทำผิด

ซึ่งหากเนิ่นช้า เกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำกับเหยื่อขึ้นอีก จึงได้เร่งรัดดำเนินการติดตามทันที ต่อมาพบว่าผู้ต้องหาได้มีการปล่อยตัวเด็กไว้ที่บริเวณฝั่งท่าเรือเกาะสีชัง ชุดสืบสวนจึงร่วมกับบ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง และสหวิชาชีพ เข้าสอบถามปากคำเด็กผู้เสียหาย ทราบว่าผู้ต้องหาออกเรือไปอยู่บริเวณเกาะสีชัง จึงบูรณาการร่วม สภ.เกาะสีชัง และตำรวจน้ำ นำหมายจับเข้าจับกุม โดยจับกุมนายเศรษฐวุฒิ ได้ขณะอยู่บนเรือจากัวร์ 39 ซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าทางการเกษตร ระหว่างจ.ชลบุรี-กรุงเทพฯ ลอยลำอยู่ในทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร

จากการสอบสวนนายเศรษฐวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา แฟนสาวของนายวุฒิได้ชักชวน ด.ญ.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องมาเที่ยวที่ จ.ชลบุรี โดยมารับที่ จ.ระยอง ก่อนพาขึ้นรถตู้ขึ้นไปลงที่ห้างฯ แห่งหนึ่ง สาขาชลบุรี จากนั้นได้พาไปที่ท่าเรือเกาะลอยโดยสารเรือมายังท่าเรือเกาะสีชัง จากนั้นได้มาขึ้นเรือจากัวร์ 39 โดยระหว่างอยู่บนเรือผู้ต้องหาได้ออกอุบายลวงเหยื่อ ก่อนกระทำชำเราล่วงละเมิดทางเพศขณะอยู่บนเรือลอยจอดอยู่ที่เกาะ

โดยในการร่วมเพศแต่ละครั้งจะมีการบันทึกคลิปวิดีโอเก็บไว้ ทั้งนี้ทางผู้ต้องหาได้กักขังเหยื่ออยู่ในเรือนานกว่า 1 เดือน และถูกกระทำชำเรามากกว่า 10 ครั้ง เมื่อเรือเทียบฝั่งก็ได้ปล่อยเด็กไว้ ซึ่งขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ผู้ต้องหายังคงให้การว่า ในส่วนคลิปวิดีโอมีแฟนตนเป็นคนถ่ายให้ และหลังจากข่มขืนเหยื่อแล้วก็ได้ทยอยส่งไปอวดให้เพื่อนของตน โดยที่ไม่ทราบว่ามีการนำไปเผยแพร่หรือขายในกลุ่มลับ แต่ยอมรับว่าทุกครั้งที่ส่งคลิปไปก็จะได้ค่าตอบแทน ครั้งละ 200-300 บาท อย่างไรก็ตามได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตรียมแจ้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารและแสวงหาผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์เพิ่มเติม

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ โดยเฉพาะผู้ที่ทำการเผยแพร่คลิปดังกล่าวลงไปขายในกลุ่ม อีกทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งพิสูจน์ตัวบุคคลที่เป็นสมาชิกในกลุ่มลับทั้ง 21,571 คน มาดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ