สอบสวนคดีลุงเปี๊ยก มีมติฟัน 8 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ

สอบสวนคดีลุงเปี๊ยก มีมติฟัน 8 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณี ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ถูกกล่าวหาว่าบังคับหรือทรมานให้นายปัญญา หรือ "ลุงเปี๊ยก" รับสารภาพในคดีฆาตกรรม นางบัวผัน ตันสุ หรือ "ป้าบัวผัน" ที่ถูกเยาวชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิตเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เป็นคดีพิเศษที่ 9/2567 และได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 8 นาย ประกอบด้วย ระดับสัญญาบัตร 5 นาย และระดับประทวน 3 นาย เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 และได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว นั้น

ล่าสุด วันนี้ (11 กรกฎาคม 2567) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2567 โดยมีนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 208/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ได้ประชุมร่วมกับ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะพนักงานอัยการ โดยทางคดีมีพยานหลักฐานพอสมควรที่ประชุมจึงมีมติร่วมกันว่ามีความเห็นควรสั่งฟ้องข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศที่เกี่ยวข้อง จำนวน 8 นาย ประกอบด้วย ระดับสัญญาบัตร 5 นาย และระดับประทวน 3 นาย ในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ร่วมกันกระทำให้บุคคลสูญหาย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างการ เสรีภาพ ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 22 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157มาตรา 309 มาตรา 310 ประกอบมาตรา 83

หลังจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณามีความเห็นส่งไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามทุจริตภาค 2 ภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำทรมานฯ มาตรา 31 วรรคท้าย และแจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ ลงวันที่ 11กรกฎาคม 25672567

การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรมเร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากคดีดังกล่าวกระทบต่อสิทธิเสรีภาพและกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ