เวลา 11.00 น.วันที่ 11 ก.ค.67 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายปราโมทย์ ศิวาโมกข์ อายุ 95 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี กรณีว่าจ้างนาย นายเจษฎา หรือเจ อายุ 33 ปี ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นช่างที่ใช้บริการมานานกว่า 7 ปี ให้มาซ่อมเครื่องซักผ้า และตู้น้ำหยอดเหรียญ หน้าห้องเช่าของตนเอง ซึ่งอยู่ที่ซอยวัดเขมาภิรตาราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี หลังซ่อมเสร็จคิดค่าบริการ จำนวน 3,000 บาท แต่ช่างกลับนำบัตร เอทีเอ็ม ไปกดเงินเกินจากค่าบริการจำนวน 40,000 บาท ลั่นเสียแรงไว้ใจ ไม่น่าทำกันเลย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา

นายปราโมทย์ ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากนายเจษฎา ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้ว ได้คิดค่าบริการจำนวน 3,000 บาท ตนจึงให้บัตร เอทีเอ็ม กับนายเจษฎา ไปกดเงินค่าจ้าง หลังกดเสร็จ ได้นำบัตรเอทีเอ็ม มาคืนตามปกติ เหมือนที่เคยทำ จนกระทั่งวันที่ 5 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ตนได้นำเงินรายได้จากค่าเช่าห้องไปเข้าบัญชี หลังจากตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารพบว่า วันที่ 29 มิ.ย.67 เวลา 14.28 น.นายเจษฎา ได้กดเงินค่าจ้างไปจำนวน 3,000 บาท และในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้กดเอาเงินไปอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท รวม 40,000 บาท จึงเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวนายเจษฎา มาดำเนินคดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อนายเจษฎา แต่ปรากฏว่าได้ปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อได้ ทางตำรวจจึงรับแจ้งความไว้ พร้อมประสานกับทางธนาคาร ที่นายเจษฎา นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน และจะออกหมายเรียกนายเจษฎา เพื่อมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินที่หายไปหรือไม่

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนนทบุรี รายงาน