หนุ่มโพสต์ อุทาหรณ์ ซื้อรถยนต์ยี่ห้อดัง พวงมาลัยสั่นหนักมาก ส่งซ่อมศูนย์หลายครั้งไม่หาย ทุกครั้งที่นำรถไปเข้าศูนย์บริการเป็นเวลานาน กลับถูกเรียกค่าจอดรถ

หนุ่มโพสต์ อุทาหรณ์ ซื้อรถยนต์ยี่ห้อดัง พวงมาลัยสั่นหนักมาก ส่งซ่อมศูนย์หลายครั้งไม่หาย ทุกครั้งที่นำรถไปเข้าศูนย์บริการเป็นเวลานาน กลับถูกเรียกค่าจอดรถ

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Jon Noi ได้โพสต์ประสบการณ์การออกรถยนต์ยี่ห้อดัง ในเพจ พวกเราคือผู้บริโภค ระบุว่า

สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มิตรสหายที่ผูกพันรักใคร่ วันนี้ผมอยากแชร์ประสบการณ์หรือเรียกว่า ประเด็นมาเล่า ก็ได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์หรืออุทาหรณ์ให้กับทุกคน เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผมและครอบครับ ในปัญหาเกี่ยวกับการซื้อรถยุโรป มาแชร์เป็นอุทาหรณ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตทรัพย์สิน และความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคตัวเล็กๆอย่างเราๆ ไว้เป็นตัวอย่างให้พึงระมัดระวัง และตื่นตัวเอาไว้ให้มาก เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อประมาณปี 2565 ช่วงเดือนพฤษภาคม ผมได้ตัดสินใจซื้อรถยนต์มือ 1 ป้ายแดงเยอรมันที่มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน ยี่ห้อดังที่น่าเชื่อถือเรื่องความปลอดภัย มาเพื่อใช้เดินทางกับครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วย ผม ภรรยา และลูกสาววัย 1 ขวบ และบางครั้งก็มีพี่เลี้ยงรวมถึงญาติๆไปด้วย จึงเลือกรถ SUV ยี่ห้อนี้

เดิมทีผมใช้รถยนต์เยอรมันอีกค่ายหนึ่งมาก่อน แต่ลองใช้รถค่ายนี้เป็นครั้งแรกเพราะเชื่อถือในความปลอดภัย และเพื่อใช้เป็นรถประจำครอบครัวรวมถึงเป็นของขวัญวันเกิดของลูกสาวครบรอบ 1 ขวบ

แต่หลังจากใช้ไปไม่กี่เดือน (วิ่งน้อยมาก) ระหว่างขณะขับรถคันนี้กับครอบครัวด้วยความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. “รถเกิดอาการผิดปกติ มีปัญหาพวงมาลัยสั่นอย่างรุนแรง ควบคุมรถลำบาก สั่นจนคนที่นั่งในรถรู้สึก แม้กระทั่งลูกสาวที่นั่งมาด้วยวัย 1 ขวบยังมีอาการผวาตกใจกลัวร้องไห้เสียงดัง

ด้วยความวิตกกังวลว่าเกิดความผิดปกติอะไรขึ้นกับรถคันนี้ที่ส่งผลกับความปลอดภัยต่อครอบครัวผม จึงติดต่อศูนย์บริการย่านฝั่งธนบุรี (ทั้งที่บ้านผมก็อยู่ไกลมากแถวประชาชื่น) ที่ผมซื้อรถคันนี้มาเพื่อรีบนำรถเข้าไปเพื่อตรวจสอบ ทางศูนย์แจ้งและให้ทำการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ โดยแจ้งว่าเมื่อดำเนินการแล้วก็จะหาย พอดำเนินการเสร็จ ผมจึงนำรถคันนี้ออกไปใช้งาน แต่กลับเจออาการอีก จึงต้องรีบติดต่อศูนย์บริการเดิมเพื่อนำรถไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลาอยู่นาน

หลายวัน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เคยมีการพบรถคันอื่นๆที่มีอาการเดียวกัน ซึ่งแก้ไขได้โดยการลงซอฟต์แวร์ใหม่ ต่อมาหลังจากแก้ไขโดยวิธีนี้เรียบร้อย ก็แจ้งให้ผมเข้าไปรับรถกลับมาใช้โดยแจ้งว่าได้ทำการแก้ไขเรียบร้อย ไม่มีอาการพวงมาลัยสั่นแล้ว

แต่เมื่อผมนำไปใช้ได้สักระยะกลับเกิดอาการพวงมาลัยสั่นขึ้นเช่นเดิม “แต่ครั้งนี้กลับเป็นที่ความเร็วต่ำลงไปอีกที่ประมาณ 80-85 กม./ชม.” ทำให้ผมและครอบครัวเกิดความกลัวในด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อคนในครอบครัว จากที่กลัวอยู่แล้วเพราะแก้ไขหลายครั้งก็ยังเป็น แต่ครั้งนี้กลับเป็นความเร็วที่ต่ำลงไปยิ่งกลัวมากกว่าเดิม จึงติดต่อนำรถกลับไปให้ศูนย์เดิมตรวจสอบอีกครั้ง

แต่ในครั้งนี้ทางศูนย์เดิมแจ้งว่าเป็นเพราะการลงซอฟต์แวร์ใหม่ มีความจำเป็นที่จะต้องให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำการจดจำสภาพพื้นถนนของเมืองไทยก่อน ทางศูนย์เดิมจึงรับไปดำเนินการ เมื่อผ่านไปสักระยะ ผมได้รับการติดต่อมาแจ้งว่าดำเนินการเสร็จเรียบร้อย รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ไม่พบปัญหาพวงมาลัยสั่นแล้ว ให้มารับรถและทดสอบด้วยกัน

ผมจึงไปตามนัดเพื่อรับรถและทดสอบด้วยกันกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ทั้งที่รู้สึกเกร็งๆ และกลัวที่จะต้องลองรถที่มีปัญหาผิดปกติที่พวงมาลัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ปรากฎว่าระหว่างเมื่อลองขับร่วมกัน กลับพบอาการพวงมาลัยสั่น ที่ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ยังไม่หายเหมือนเดิม ความรู้สึกของผมในตอนนั้น ผมเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงใจเสียมากๆที่จะต้องใช้รถที่มีปัญหาผิดปกติในระบบบังคับเลี้ยว ทั้งที่ไม่ทราบสาเหตุและไม่ควรจะเกิดกับรถใหม่ป้ายแดง แต่ไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องทิ้งรถไว้ที่ศูนย์อีกครั้ง (ซึ่งผมซื้อมาแทบจะไม่ได้ใช้เลย เพราะรถต้องอยู่ที้ศูนย์หลายๆครั้งเป็นเวลานาน)

หลังจากนั้นผมได้คอยติดตามถามถึงสาเหตุอยู่ตลอด เพราะเป็นส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง แต่หลายครั้งที่สอบถามไป ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดเสียที ต้องขอนำเรื่องไปปรึกษาทางบริษัทแม่ก่อน แล้วจะติดต่อกลับ มีการสอบถามผมว่าระหว่างนี้มีความต้องการอย่างไร หากแก้ปัญหาไม่ได้ หรือต้องเปลี่ยนฮาดแวร์ ผมก็แจ้งความจำนงว่า หากเป็นเช่นนั้นขอให้เปลี่ยนรถคันใหม่ และขอให้สอบถามก่อนดำเนินการ

ผ่านไปไม่นานทางศูนย์แจ้งว่าต้องเปลี่ยน “แล็คพวงมาลัย” ก็ตกใจ รถออกใหม่ป้ายแดง ขับไปไม่กี่เดือน จอดอยู่ที่ศูนย์บริการระยะเวลารวมกันนานหลายๆเดือน กลับต้องเปลี่ยนแล็คพวงมาลัยเลยหรอ จึงขอให้ทางศูนย์ที่เราซื้อรถด้วย ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดว่าจริงๆแล้วรถมีปัญหาอะไรกันแน่ สอบถามไปหลายครั้งก็ไม่ได้รับคำตอบ ว่าเกิดปัญหาอะไร

ทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุอันแน่ชัด ทางศูนย์กลับทำการเปลี่ยนแล็คพวงมาลัยโดยไม่เป็นตามที่คุยกัน แล้วติดต่อให้ผมไปรับรถกลับไปใช้ ผมจึงแจ้งว่าที่ดำเนินการโดยพลการไม่เป็นไปตามที่แจ้ง อีกทั้งสอบถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าครั้งนี้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอาการเดิมเกิดขึ้นอีก ทางศูนย์บริการเดิมแจ้งว่า ไม่สามารถยืนยันได้ให้เอารถกลับไปใช้ก่อน

เนื่องจากที่ผ่านมาผมและครอบครัวได้เคยให้โอกาสไปรับรถมาลองใช้หลายครั้งแล้วแต่ก็ยังเกิดปัญหาเดิม ไปจนถึงแย่กว่าเดิม ทำให้หมดความมั่นใจที่จะใช้ ผมจึงร้องขอให้นำรถที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมาให้แทน เพราะจากปัญหาที่เกิดขึ้นผมกังวลว่า ถ้าไปรับรถคันนี้กลับมาใช้อีก อาจไม่ได้มีโอกาสกลับมาแจ้งอาการผิดปกติอีก เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ก็ถูกเพิกเฉยมาตลอด หนำซ้ำยังส่งหนังสือเร่งให้ไปรับรถ พร้อมแจ้งว่าถ้าไม่ไปก็จะคิดค่าจอดรถเป็นรายวันรวมเป็นเงินจำนวนมาก ทั้งที่ผ่านมาระหว่างรถคันนี้เข้าศูนย์ ผมไม่เคยได้รับรถสำรองมาใช้งานเลย ในทุกครั้งที่นำรถไปเข้าศูนย์บริการเป็นเวลานาน แต่กลับถูกเรียกค่าจอดรถอย่างไม่เป็นธรรม“ ระหว่างที่รถจอดที่ศูนย์มีระบบเตือนจากรถในเรื่องอื่นๆ ผมก็ต้องไปแจ้งพนักงานศูนย์บริการด้วยตัวเอง

“ผมรู้สึกผิดหวังมาก ทั้งที่ตั้งใจซื้อรถคันนี้มาให้ลูกและภรรยา พร้อมคนในครอบครัวใช้ ตั้งใจให้รถคันนี้เป็นของขวัญแห่งความปลอดภัยที่จะดูแลลูกสาวครบรอบ 1 ขวบ แต่สุดท้ายนี่คือฝันร้ายที่สุดของผมและครอบครัว ที่หลอกหลอน กระทั่งลูกสาวผมที่กลัวการขึ้นรถอยู่นานกว่าจะปกติ“

ผมเลือกด้วยความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยของรถยี่ห้อนี้ แต่ประสบการณ์ที่ผมได้รับกลับไม่เป็นดังตั้งใจ จากวันที่รถผมมีปัญหา จนถึงวันนี้ ระยะเวลานานที่ผมจ่ายเงินซื้อรถไป ตลอดเวลาที่มีปัญหาผมก็ยังชำระทุกงวดไม่มีขาด แต่ผมกลับไม่ได้ใช้รถคันนี้เลย ผมร้อง สคบ. แล้ว ก็ไม่ได้ข้อยุติ มาไกล่เกลี่ยก็ไม่ได้ข้อสรุป เหมือนมาคุยกันแล้วดึงเวลาออกไปอีกเหมือนที่ผ่านมา ผมหาทางไปต่อไม่เจอ สุดท้ายต้องมาฟ้องเป็นคดีที่ศาล มีนัดไกล่เกลี่ยที่ศาลในความรู้สึกของผมและภรรยาก็เหมือนไม่ได้มาเพื่อยุติโดยเข้าใจลูกค้าแต่อย่างใด ตอนนี้ก็เตรียมตัวสืบคดีพิสูจน์ความยุติธรรมต่อไป หวังแค่ว่าโพสต์นี้ของผมจะเป็นประโยชน์เพื่อให้ผู้บริโภคที่อาจเจอประสบการณ์แบบนี้ได้รับรู้ว่า บางครั้งเราอาจต้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ด้วยตัวเอง หากใครก็ตามที่เจอประสบการณ์เช่นนี้ ขอให้รู้ว่าคุณไม่ได้ลำพัง ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม

สุดท้ายนี้ผมหวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์ และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นในทุกๆมุม ที่นำเสนอหรือตอบกลับ และขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็นหรือมองว่าสิ่งที่ผมทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องในฐานะหัวหน้าครอบครัวและผู้บริโภคคนหนึ่งครับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ