เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งและส่งคลิปมาจากชาวบ้าน ถนนคนเดินริมโขง อ.เชียงคาน จ.เลย ว่า เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย.67 เวลาประมาณตีหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวชาวลาวเป็นผู้หญิงทั้งหมด มาเปิดห้องที่โฮมสเตย์ บ้านเลยเชียงคาน ซอย 7 ถูกเจ้าของโฮมสเตย์ รังแก โดยที่นักท่องเที่ยวมาเปิดห้องไม่ทราบว่าห้ามอยู่หลายคน ทางโฮมสเตย์ได้มาต่อว่าเขาก็ยินดีออกและไปเช่าที่ใหม่โดยไม่ได้เอาเงินคืน แต่ทางเจ้าของโฮมสเตย์ไม่พอใจที่ไม่เปิดห้องเพิ่มกับเขา จึงตามด่านักท่องเที่ยว แบบหยาบคาย เสียๆหายๆ แถมหนำซ้ำยังเตะข้าวของของเขากระจัดกระจายของนักท่องเที่ยวชาวลาวอีก ทำให้ชาวลาวไปเปิดห้องพักที่อื่นก็ทำให้เจ้าของโฮมสเตย์ไม่พอใจตามด่า จนเช้านักท่องเที่ยวจะกลับประเทศ ก็ไปตามด่าที่ด่านอีก

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.67 เวลา 16.00 น. นายอภินันต์ สุวรรณโค นายอำเภอเชียงคาน มอบหมายให้นายธริช ธนภัคนพพล ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมด้วยนายสุรสีห์ วรโยธา ปลัดอำเภอกลุ่มงานทะเบียนและบัตร ตำรวจ สภ.เชียงคาน และเลขานุการชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงคาน เดินทางไปที่โฮมสเตย์ บ้านเลยเชียงคาน พบนายบุญเลย แสนพรหม อายุ 57 ปี บุคคลที่ปรากฎในคลิป และนางศิริวรรณ แสนพรหม ซึ่งเมื่อทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาพบ จากกรณีวิวาทในคืนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากมีนักท่องเที่ยวชาวลาวจำนวน 3 คน เป็นผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 มาเปิดห้องจำนวน 1 ห้อง ในเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 21 มิ.ย.67 จากนั้นได้เดินทางไปเที่ยวงานหน้าอำเภอ และกลับมาที่พักในเวลาประมาณ 01.00 น. พร้อมกับเพื่อนๆ และเด็กๆ อีกประมาณ 5 คน นายบุญเลย จึงแจ้งว่าพักรวมกันไม่ได้เนื่องจากห้องมีขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวจึงอยากเปิดอีก 1 ห้อง

นายบุญเลย จึงแนะนำให้เปิดห้องใหญ่ซึ่งอยู่ชั้นล่างอีก 1 ห้อง โดยเสนอราคาให้ในราคา 500 บาท จากราคาปกติ 1,500 บาท แต่นักท่องเที่ยวยืนยันจะพักรวมกันที่ชั้นบน แต่ผู้ประกอบการก็ยืนยันว่าไม่ได้ นักท่องเที่ยวจึงขอเงินคืน และประสงค์ยกเลิกเข้าพัก แต่ผู้ประกอบการไม่คืนให้ โดยให้เหตุผลว่าห้องได้ถูกเปิดใช้แล้ว จึงมีปากเสียงกันและไล่นักท่องเที่ยวออกจากห้อง นอกจากนี้ยังตามไปทะเลาะกับนักท่องเที่ยวจนถึงปากซอย 14 และในช่วงเช้านายบุญเล ยังไปดักคอยนักท่องเที่ยวคู่กรณีในประเด็นที่ค้างคาใจที่นักท่องเที่ยวด่าด้วยคำหยาบคาย จนเกิดปากเสียงกันตามที่เป็นคลิปดังกล่าว จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน และมิให้ทำพฤติกรรมดังที่เป็นคลิปอีกมิเช่นนั้น จะมีมาตรการที่เข้มงวดต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เลย รายงาน