แม่เจสซี่ ตีอกชกตัวหลั่งน้ำตา ลูกแอบกดเงินบัญชีพ่อ 1.3 ล้านบาท ขณะคู่กรณีนัดจ่ายเงินวันนี้แล้วเบี้ยว

แม่เจสซี่ ตีอกชกตัวหลั่งน้ำตา ลูกแอบกดเงินบัญชีพ่อ 1.3 ล้านบาท ขณะคู่กรณีนัดจ่ายเงินวันนี้แล้วเบี้ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 67 นายดีแลนด์ อายุ 20 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-ไอซ์แลนด์ พานางสาวกุ้ง อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ ขี่ จยย. จากพัทยา จ.ชลบุรี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามตัวน้องเจสซี่ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นน้องชายกลับมาสู่ครอบครัว หลังหายตัวไปนานกว่าครึ่งเดือนโดยไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.หนองปรือ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

โดย น.ส.กุ้ง เล่าว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับ นายมาร์ติน อายุ 74 ปี สามีชาวไอซ์แลนด์ จนมีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตชื่อดีแลนด์ คนกลางคือน้องเจสซี่ ที่หายตัวไป ส่วนคนเล็กเป็นหญิง อายุ 10 ขวบ โดยน้องเจสซี่ ลูกชายคนรองนั้น เรียนอยู่ชั้น ม.4 ได้คบหาเป็นแฟนกับนักเรียนหญิง อายุ 16 ปี ชั้น ม.4 โรงเรียนเดียวกันแต่คนละห้อง โดยเหตุการณ์ที่ลูกหายไป เกิดจากเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ลูกชายไปคบหากับนักเรียนหญิง ม.4 และถูกครอบครัวฝ่ายหญิงหลอกอ้างเหตุสารพัดเอาเงินไปกว่า 8.9 แสนบาท โดยมีหลักฐานรายการบัญชีโอนเงิน เงินดังกล่าวเป็นเงินที่สามีเอาไว้ต่อวีซ่าเกษียณ เพื่ออยู่ไทย เงินจะมีเข้าจากต่างประเทศทุกสิ้นเดือน เดือนละ 25,000 บาท

โดยสามีชาวต่างชาติได้ให้บัตร ATM ไว้กับลูกเจสซี่ ก่อนจะทราบว่า ถูกครอบครัวฝ่ายหญิงหลอกเอาเงินไปจนเกลี้ยงบัญชี แทบไม่มีเงินต่อวีซ่า เมื่อเงินเริ่มหมด แฟนสาวก็หาเรื่องเลิกคบกันกับลูกชาย แต่กลับมีแม่ของฝ่ายหญิง อายุ 33 ปี เข้ามาแทนที่ ทำทีเข้ามาดามหัวใจบอกรักเจสซี่ลูกชายตน ทั้งๆ ที่มีสามีอยู่แล้ว เพื่อหวังกินเงินเกษียณเดือนละ 25,000 บาท ของสามีตน จนลูกชายกับแม่ของนักเรียนหญิง ม.4 มีสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ต่อมาสามีอีกฝ่ายทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงโทรฯ มาข่มขู่ครอบครัวตนว่าจะฟ้องลูกชายตนเป็นชู้กับเมียเขา และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 2 ล้านบาท ตนกลัวจะถูกยึดบ้าน

ส่วนประเด็นลูกชายหายตัวไป ได้แจ้งความพรากผู้เยาว์กับฝ่ายหญิงสาวไว้แล้ว แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีกลับบอกว่า เด็กมีหัวสมอง มีมือมีเท้าไปกับเขาเอง ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดี ทำได้แค่เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ตนจึงต้องมาเรียกร้องความเป็นธรรมและตามหาลูกชาย เนื่องจากเป็นห่วงมาก เปิดเทอมแล้ว เขากำลังจะขึ้น ม.5 ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกเป็นห่วงเขาจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้ไปเรียนหนังสือเลยกว่าครึ่งเดือน

ความคืบหน้าของคดีนั้นวันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน 67 ที่มูลนิธิ รณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายดีแลนด์ อายุ 20 ปี ได้ขี่จยย. จากพัทยา จังหวัดชลบุรี พาคุณแม่คือนางสาวกุ้ง พร้อมนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มามอบเพิ่มเติมให้กับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ โดยมีว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิ นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ ร่วมกันตรวจสอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในวันนี้

นางสาวกุ้ง มารดาของน้องเจสซี่ กล่าวทั้งน้ำตาขนาดแถลงข่าวว่า วันนี้ ตนได้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ แล้วพบว่า ลูกชายได้กดเงินจำนวน 1,318,390 บาท ไปจากบัญชีของผู้เป็นพ่อ ไม่ใช่ 8 แสนกว่าบาทตามที่ตรวจพบในตอนแรก หลังทราบเรื่องตนเองรู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะเป็นเงินที่สามี ได้รับและสะสมมาทุกเดือนจากการทำงานจนเกษียณ ตอนนี้ที่บ้าน ไม่มีเงินติดตัวเหลืออยู่เลยตนมีเงินเพียง 500 บาท ให้ลูกชายคนโตคือน้องดีแลนด์ ขี่รถจักรยานยนต์มาจากพัทยา เพื่อนำหลักฐานเอกสารต่างๆ รวมทั้งข้าวของ-เสื้อผ้าที่นำกองไว้บนโต๊ะอย่างที่เห็น ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นของฝ่ายคู่กรณี คือ นางสาวกานต์ซื้อให้นางสาวพิมพ์ลูกสาว และนำมามอบให้กับน้องเจฟฟี่ลูกชายตนระหว่างอยู่กินกัน ขึ้นตนเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้จากการ หลอกลวงเอาไปจากลูกชายของตนเอง

ระหว่างกำลังแถลงข่าวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้นปรากฏว่านางสาวกุ้ง ไม่สามารถควบคุม ความเศร้าโศกเสียใจ ที่ผ่านมาได้ ถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้และ อาเจียน จนเจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องนำยาดม หอมต้องพูดปลอบใจ แต่น้องสาวกุ้ง ก็ยังไม่สามารถแถลงข่าวต่อได้ จนต้องให้ บุตรชายคนโตคือน้องดีแลนด์พูดแทนทุกอย่าง

ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาร้องเรียนเพิ่มเติมกับทางมูลนิธินั้น เนื่องจากในวันนี้เป็นวันที่ทางคู่กรณีนัดหมายและลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะชดใช้ค่าเสียหายในส่วนที่เอาเงินจากครอบครัวของตนไป แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลานัดกับติดต่อไม่ได้ จึงเชื่อแล้วว่าคงถูกเบี้ยวอย่างแน่นอน ส่วนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้รับการประสาน เพื่อให้มาเจรจาพูดคุยชดใช้หนี้ตามที่ลงบันทึกประจำวันไว้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 67 ที่ สภ.หนองปรือ ตนกับคุณแม่และคุณพ่อไม่เหลือเงินแล้วถูกเขาเอาไปหมดก็อยากให้ทางเขาชดใช้เงินที่เอาไปจากครอบครัวของตนด้วย

ขณะที่ทนายรณณรงค์เอง เผยว่าที่ผ่านมาทางมูลนิธิได้ดำเนินการช่วยเหลือ เดินเรื่องในการดำเนินคดีต่างๆให้กับทางครอบครัวของคุณกุ้งแล้ว โดยมีการแจ้งความทางฝ่ายคู่กรณีทั้งข้อหาลักทรัพย์ รับของโจร แม้แต่ตัว เจสฟี่เองคุณพ่อก็แจ้งข้อหาลักทรัพย์กับลูกชายด้วย ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดและกลัวกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว คดีนี้เรามีหลักฐานเอกสารต่างๆ พร้อมจะ ช่วยเหลือและดำเนินคดีคู่กรณีได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ