
สาวช่วยเด็กขอทาน ให้เงินติดตัวไป 50 บาท ใครจะรู้อีก 20 ปี เขากลับมาตอบแทน ยิ่งกว่าละครคุณธรรม (ตปท.)
เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่ทำเอาหลายคนน้ำตาซึมเลยทีเดียว หลังจากเว็บไซต์ต่างประเทศ SAOstar ได้มีการนำเสนอเรื่องราวของ ไต่ซิงเฟิน หญิงเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่วันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน อยู่ ๆ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า อ้างว่าเป็นผู้ช่วยของบิ๊กบอสจากบริษัทในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง และเจ้านายของเขาอยากพบเธอเพื่อมอบสิ่งตอบแทนให้ แต่เธอนึกว่าอีกฝ่ายเป็นมิจฉาชีพจึงปฏิเสธทันที
อีกหลายวันต่อมา มีชายคนหนึ่งมาหาเธอถึงร้าน จากนั้นได้ คุกเข่าลง พร้อมกับยื่นเช็กมูลค่า 1 ล้านหยวน หรือประมาณ 5 ล้านบาทให้ เขาบอกว่า อยากจะมอบเงินนี้เพื่อแสดงความขอบคุณ ทำให้ ไต่ซิงเฟิน สับสน แต่แล้วเธอหวนก็นึกถึงเรื่องราวบางอย่างได้ว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่เธออายุประมาณ 24 ปี เธอทำงานเป็นนักบัญชี และได้พบกับเด็กหนุ่ม 3 คนระหว่างเดินทางกลับบ้าน พวกเขาเดินตามเธอมาเงียบ ๆ ทำให้เธอรู้สึกกังวล แต่ก็ตัดสินใจหันกลับไปถามว่าพวกเขาเดินตามมาทำไม
แต่ภาพที่เธอได้เห็นตอนนั้น คือเด็กหนุ่มทั้ง 3 คน อยู่ในสภาพที่น่าสงสาร กำลังตัวสั่นจากความหนาวเย็น ร่างกายซูบผอม ลักษณะของพวกเขาดูไม่เหมือนคนร้าย แต่เหมือนเด็กที่ไร้ทางไป ด้วยเหตุนี้เธอจึงถามไถ่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงว่า พวกเธอมาทำอะไร หลังจากลังเลอยู่สักพัก หนึ่งในเด็กหนุ่มก็เล่าให้ฟังว่า พวกเขาทนหิวมา 3 วันแล้ว หวังว่าพี่สาวจะให้ของกินแก่พวกเขาบ้าง
ไต่ซิงเฟิน ยืนลังเลอยู่สักพักใหญ่ ก็ตัดสินใจพาทั้ง 3 คนกลับไปที่บ้านแล้วช่วยหุงหาอาหารให้กิน เพราะไม่อาจนิ่งดูดายต่อความลำบากของพวกเขาได้ ยิ่งได้ฟังเรื่องราวจากทั้ง 3 คน ไต่ซิงเฟินก็ทราบว่า พวกเขาถูกโจรล้วงขโมยทรัพย์สินไปจนหมด ทำให้ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ เธอจึงอนุญาตให้พวกเขานอนพักที่บ้าน 1 คืน และในเช้าวันรุ่งขึ้นก็พาเด็ก ๆ ไปหางาน
จนกระทั่งเจองานหนึ่งที่เด็ก ๆ จะทำได้ แต่ดันโชคร้าย เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวไม่สามารถรับเด็กหนุ่มเข้าทำงานได้ทั้ง 3 คน สุดท้ายพวกเขาเลยคุยกันว่า จะขอไปหางานทำที่เมืองอื่นต่อ ทั้งนี้ ก่อนที่เด็กหนุ่มทั้ง 3 จะจากไป ไต่ซิงเฟิน ยังช่วยซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเขา แถมยังซื้อตั๋วรถให้ รวมถึงให้เงินติดตัวกันไปคนละ 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาท ตอนแรกทั้ง 3 คนก็จะไม่รับเงินนั้น แต่เพราะไต่ซิงเฟินยืนกรานจะให้ พวกเขาจึงรับไว้ด้วยความยินดี
จนกระทั่งเวลาผ่านไป เหอหรงเฟิง เด็กหนุ่มที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม ก็ได้ทำงานในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ และพยายามทำงานหนักจนใช้หนี้ให้พ่อได้จนหมด จากนั้นเขาเริ่มตั้งบริษัทเฟอร์นิเจอร์ของตัวเองในเมืองเสิ่นหยาง กระทั่งกลายมาเป็นบริษัทดังในท้องถิ่น ซึ่งระหว่างนั้น เหอหรงเฟิง ก็ยังคงไม่ลืมบุญคุณของพี่สาวที่เคยช่วยเขากับเพื่อน ๆ ไว้ในยามลำบาก เขาต้องการตอบแทนความมีน้ำใจของเธอเสมอ
จนกระทั่ง เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางดีแล้ว เขาจึงเริ่มออกตามหาไต่ซิงเฟินไปทุกที่ หวังว่าจะได้กล่าวขอบคุณเธอด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากตอนนั้นเขาได้ยินชื่อเธอผิดเป็น ไต่ซินเฟิน ดังนั้น แม้จะตามหาอยู่หลายปีก็ยังไม่พบ แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ จนในที่สุดเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา และในที่สุด เหอหรงเฟิง ก็เจอตัวผู้มีพระคุณของเขาจนได้
หลังพบว่า ไต่ซิงเฟิน ไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวกับสามี เขาก็ตัดสินใจนำเช็กมูลค่า 1 ล้านหยวน ประมาณ 5 ล้านบาท ไปหาเธอถึงร้าน และมอบเงินนี้เพื่อตอบแทนน้ำใจที่เธอหยิบยื่นให้ อย่างไรก็ตาม ไต่ซิงเฟิน ปฏิเสธไม่ขอรับเงินนั้น โดยยืนยันว่าไม่ได้ช่วยเขาเพราะหวังเงินแต่อย่างใด จากนั้น ทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกัน เล่าเรื่องต่าง ๆ ที่ประสบมาในชีวิต และสุดท้าย เหอหรงเฟิง ก็ตัดสินใจใช้เงินดังกล่าวบริจาคในนามของไต่ซิงเฟิน เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อไป