
รวบคนประจำเรือ มียาเสพติด 3 ราย และผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย อีก 5 ราย
กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 8 ราย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ
รายที่ 1 นายจักรกฤษณ์ ฯ อายุ 26 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ กระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาบ้า จำนวน 7 เม็ด
สถานที่จับกุม บนเรือสปีดโบ๊ท บริเวณเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบนายจักรกฤษณ์ ฯ (ผู้ถูกจับกุม) ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ มีอาการพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้นในตัวเรือ พบของกลางยาบ้า จำนวน 7 เม็ด และได้ขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดด้วยชุดทดสอบสารเสพติด(ยาบ้า) ได้ผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายจักรกฤษณ์ ฯ ทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้นรับสารภาพ ให้การว่ายาบ้า จำนวน 7 เม็ด เป็นของตนเองจริง และได้เสพยาบ้าจริง
รายที่ 2 นายนิกร ฯ อายุ 42 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ(กัปตัน) กระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 1 เม็ด
สถานที่จับกุม บนเรือสปีดโบ๊ท บริเวณท่าเทียบเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบนายนิกร ฯ (ผู้ถูกจับกุม) ผู้ควบคุมเรือ(กัปตัน) มีอาการพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้นในตัวเรือ พบของกลางยาบ้า จำนวน 1 เม็ด และได้ขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดด้วยชุดทดสอบสารเสพติด (ยาบ้า) ได้ผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายนิกร ฯ ทราบว่า“มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ให้การว่ายาบ้า จำนวน 1 เม็ด เป็นของตนเองจริงและได้เสพยาบ้าจริง
รายที่ 3 นายบัญชา ฯ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ กระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 2 เม็ด
สถานที่จับกุม บนเรือสปีดโบ๊ท บริเวณท่าเทียบเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบ นายบัญชาฯ (ผู้ถูกจับกุม) ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ มีอาการพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้นในตัวเรือ พบของกลางยาบ้า จำนวน 2 เม็ด และได้ขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดด้วยชุดทดสอบสารเสพติด(ยาบ้า) ได้ผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายจักรกฤษณ์ ฯ ทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ให้การว่ายาบ้า จำนวน 2 เม็ด เป็นของตนเองจริงและได้เสพยาบ้าจริง
พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย รายที่ 4 นายอนุชา ฯ อายุ 44 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ กระทำความผิดฐาน “ทำการในเรือโดยตำแหน่งที่ประกาศนียบัตร ที่ถืออยู่ไม่สามารถที่จะทำการได้”
สถานที่จับกุม บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบนายอนุชาฯ (ผู้ถูกจับกุม) ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ จึงได้ขอตรวจประกาศนียบัตรควบคุมเครื่องจักรยนต์ พบว่ามีประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ ชั้น 2 ไม่ถึงระดับชั้นที่จะทำการในเรือลำดังกล่าว ซึ่งต้องประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ ชั้น 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายอนุชาฯ ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ทำการในเรือโดยตำแหน่งที่ประกาศนียบัตร ที่ถืออยู่ไม่สามารถที่จะทำการได้” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ว่าตนเองมีประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ ชั้น 2 ต่ำกว่าระดับที่จะทำการในเรือได้จริง
รายที่ 5 นายธีรศักดิ์ ฯ อายุ 27 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ข้อหา “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ”
สถานที่จับกุม บริเวณท่าเทียบเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบ นายธีรศักดิ์ ฯ (ผู้ถูกจับกุม) ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ได้ขอตรวจใบอนุญาตใช้เรือ ปรากฏว่าไม่สามารถนำใบอนุญาตใช้เรือมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายธีรศักดิ์ ฯ ทราบว่า “ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ว่าอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตใช้เรือจากกรมเจ้าท่าจริง
รายที่ 6 นายพันธวัช ฯ อายุ 27 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ข้อหา “ใช้เรือผิดจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ และ ใช้เรือที่ใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว”
สถานที่จับกุม บริเวณท่าเทียบเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบ นายพันธวัช ฯ (ผู้ถูกจับกุม) ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ได้ขอตรวจใบอนุญาตใช้เรือ พบว่าใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุตั้งแต่ 27 ธ.ค. 66 และไม่มีผู้ใดทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายพันธวัชฯ ทราบว่ากระทำผิดฐาน “ใช้เรือผิดจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ และ ใช้เรือที่ใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ว่าใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุตั้งแต่ 27 ธ.ค. 66 และ ไม่มีผู้ใดทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์จริง
รายที่ 7 นายสุนทรฯ อายุ 32 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ข้อหา “ประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือสิ้นอายุ”
สถานที่จับกุม บริเวณท่าเทียบเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบ นายสุนทร ฯ (ผู้ถูกจับกุม) ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ได้ขอตรวจประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ ปรากฏว่า ประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ สิ้นอายุตั้งแต่ 16 ก.พ. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายสุนทรฯ ทราบว่า“ประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือสิ้นอายุ” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ว่าประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ สิ้นอายุตั้งแต่ 16 ก.พ. 63 จริง
รายที่ 8 นายรัตนศักดิ์ฯ อายุ 37 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ข้อหา “ใช้เรือผิดจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ” สถานที่จับกุม บริเวณท่าเทียบเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยว พบ นายรัตนศักดิ์ฯ (ผู้ถูกจับกุม) ทำหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ (กัปตัน) ได้ตรวจสอบพบว่าไม่มีผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์อยู่บนเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายรัตนศักดิ์ฯ ทราบว่า “ใช้เรือผิดจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ว่าไม่มีผู้ใดทำหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์จริง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน