เรียกได้ว่า การแต่งงาน ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งกว่าจะถึงวันแต่งงานก็ต้องผ่านอะไรกันมามากมาย แถมยังไม่ใช่แค่เรื่องของคนแค่สองคน แต่ยังรวมไปถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่าย เพราะมีหลายเคสแล้วที่คนแต่งงานไปแล้ว ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง แต่สำหรับเจ้าสาวที่เราจะกล่าวถึงนี้ บอกเลยว่าใจเด็ดมาก ยอมเสียหน้ากลางงานของตนเอง ดีกว่าต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 เว็บไซต์ต่างประเทศ Sohu เผยเรื่องราวเหตุการณ์ที่งานเลี้ยงงานแต่งงานแห่งหนึ่ง ในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ในระหว่างพิธีการ เป็นตอนที่แม่เจ้าบ่าวได้กล่าวอวยพรลูกชายด้วยการยกย่องความดีความงามของเขา บอกว่าเขามีความสามารถโดดเด่น เป็นที่รักใคร่ของทุกคน และแต่งงานกับเจ้าสาวโดยที่ไม่ต้องเสียค่าสินสอดแม้แต่แดงเดียว ส่วนสินสอดที่เห็นเป็นฝ่ายเจ้าสาวที่เตรียมมาเอง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทางเจ้าสาวก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะคำพูดของแม่เจ้าบ่าวไม่เพียงแค่ด้อยค่าในตัวเธอ แต่ยังรวมไปถึงทางครอบครัวของเธอด้วย เมื่อเห็นว่าทางครอบครัวของเจ้าบ่าวมีทัศนคติที่ไม่ดี และไม่ได้เรียนรู้คุณค่า รวมไปถึงความทุ่มเทของเธอและครอบครัวของเธอเลย นั่นจึงทำให้ทางเจ้าสาวตัดสินใจยกเลิกงานแต่งงานตนเองทันที

เจ้าสาวรายดังกล่าวถอดชุดเจ้าสาวออกด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ก่อนที่เดินลงจากเวทีไป ท่ามกลางความตกตะลึงของแขกที่มาร่วมแสดงความยินดี ทั้งญาติและเพื่อนๆ จำนวนมาก ได้แต่มองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และคงหนีไม่พ้นที่แขกต่างพากันซุบซิบนินทา รวมทั้งมีผู้บันทึกภาพนำไปแชร์บนสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม จากการรายของสื่อท้องถิ่น ระบุว่า เหตุผลที่เจ้าสาวไม่เรียกค่าสินสอดจากทางฝ่ายเจ้าบ่าว เป็นเพราะเธอคำนึงถึงสถานะทางการเงินของเขา แต่ทางแม่เจ้าบ่าวกลับพูดอีกแบบ ราวกับว่าเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา ทางเจ้าสาวจึงตัดสินใจล้มเลิกการแต่งงานอย่างที่เห็น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเธอและครอบครัว แม้ว่าจะต้องรู้สึกอับอายก็ตาม

แต่ทว่า หลังที่เรื่องดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ชาวเน็ตส่วนใหญ่สนับสนุนการตัดสินใจของเจ้าสาวรายนี้ พร้อมกับให้เหตุผลในทำนองเดียวกันว่า นี่คือการปกป้องสิทธิอย่างกล้าหาญของเธอ เป็นเรื่องที่น่ายกย่องชื่นชม รวมทั้งประณามทางฝ่ายแม่ของเจ้าบ่าวที่ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ขาดความเคารพและความเข้าใจอีกฝ่าย ทั้งที่เป็นเพศหญิงเหมือนกัน เชื่อว่าหากแต่งงานกันไป อาจจะต้องเจอปัญหายุ่งเหยิงกว่านี้