ชาวบ้าน ร้องสื่อช่วยด้วย ทนกลิ่นขี้หมูไม่พอน้ำตามลำธารเน่าเสียเหม็นทั้งตำบลหน่วยงานเงียบกริ๊บ

ชาวบ้าน ร้องสื่อช่วยด้วย ทนกลิ่นขี้หมูไม่พอน้ำตามลำธารเน่าเสียเหม็นทั้งตำบลหน่วยงานเงียบกริ๊บ

วันที่ 25 เมษายน 2567 ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลนาเหรง กับ ชาวบ้าน หมู่5 ตำบล กะหรอ อำเภอ นบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นขี้หมูของฟาร์มหมูใกล้เคียง ส่งกลิ่นเหม็นจนทนไม่ไหว และยังทำให้น้ำในห้วยตามธรรมชาติ ถูกฟาร์มหมูปล่อยของเสียลงไปในห้วยลำธาร ชาวบ้านไม่กล้านำน้ำมาทำการเกษตรเพราะน้ำเน่าเสียไปหมด เมื่อก่อนน้ำในลำธารใสสะอาดเห็นตัวปลา แต่ตอนนี้น้ำเป็นสีดำ

จากการสอบถามชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ชื่อคนใส่แว่น พงค์ศักดิ์ โชติกะ อายุ 50 ปี เปิดเผยพร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่4-5ปี ชาวบ้านหมู่2 กับ หมู่5 ต้องตนกลิ่นขี้หมูมาโดยตลอด เคยแจ้งผู้นำในพื้นที่ไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง และได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม อำเภอนบพิตำ ไปแล้วก็เรื่องก็เงียบ ต่อมาก็ได้ไปร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ทางจังหวัดได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนเท่านั้น ทางฟาร์มก็ได้ขุดบ่อขึ้นมาและทิ้งมูลของเสีย กลิ่นเบาลง พอเรื่องเงียบ กลิ่นขี้หมูจากฟาร์ม ส่งกลิ่นเหม็นมากกกว่าเดิม 

ผู้สูงอายุท่านหนึ่ง บ้านอยู่ฝั่งหมู่ที่ 5 ต.กะหรอ บอกผู้สื่อข่าวว่า นอนกลางคืนต้องใส่แมส 2 ชั้น ลำบากมาก วันดีคืนดีหากกระแสลมมาทางฝั่งบ้านตนยิ่งไปกันใหญ่ เหม็นปวดศรีษะ ส่วนชาวบ้านบางรายต้องใช้น้ำในการทำการเกษตร ช่วงนี้ฤดูแล้งต้องใช้น้ำรดสวนผลไม้ ไม่สามารถนำน้ำจากห้วยธรรมชาติแห่งนี้มารดได้

โดยล่าสุด คุณพงศ์ศักดิ์ฯ ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ หมู่2 ต.นาเหรง ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง บ้านตนอยู่ไกล้กับฟาร์มมากที่สุด มีเพียงห้วยธรรมชาติกั้นกลางระหว่างบ้านกับฟาร์มหมู ได้รับความเดือนร้อนมาก บางวันแทบจะกินข้าวไม่ได้เลย คืนวานต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะกลิ่นเหม็นจนปวดศรีษะ ที่น่าเป็นห่วงคือเด็กเล็ก หากยังปล่อยอยู่แบบนี้เกรงว่าเด็กจะมีปัญหาด้านสมองในระยะยาว คุณพงศ์ศักร์ฯ กล่าวอีกว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตนและชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานสิ่งแวดล้อม ทางหน่วยงานได้แจ้งกลับมา จะเร่งดำเนินการติดตามเรื่องนี้ให้ภายใน 45 วัน อย่างไรก็ตาม รอดูหลังจากนี้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการแก้ไขให้ชาวบ้านอย่างไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดระยอง รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ