ผัวชาวเวียดนามเอาลอตเตอรี่ไปเผาทิ้ง หลังเมียบ่นซื้อไม่เคยถูก ดันถูกรางวัลที่ 1 นั่งทรุดทั้งน้ำตา (ต่างประเทศ)

ผัวชาวเวียดนามเอาลอตเตอรี่ไปเผาทิ้ง หลังเมียบ่นซื้อไม่เคยถูก ดันถูกรางวัลที่ 1 นั่งทรุดทั้งน้ำตา (ต่างประเทศ)

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศ ได้มีการรายงานเรื่องราวของ นายเอ (นามสมมุติ) เป็นชายชาวเวียดนามวัย 52 ปี ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เกือบจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล แต่กลับต้องผิดหวังเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเจ้าตัวเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนนั้นเขาเป็นช่างซ่อมรถ กำลังซ่อมรถให้ลูกค้าหญิงรายหนึ่งอยู่ที่บ้านของเขา ระหว่างนั้นมีคนขายลอตเตอรี่นำลอตเตอรี่มาขายให้เขา 2 ใบ

นายเอตัดสินใจซื้อลอตเตอรี่ดังกล่าวมาในราคา 10,000 ดองเวียดนาม หรือประมาณ 15 บาท (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) เป็นลอตเตอรี่หมายเลข 324272 จากนั้นก็เก็บเอาไว้ จนช่วงเที่ยงวันถัดมา ขณะที่เขานั่งดื่มกาแฟที่บ้าน เขาก็เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองซื้อลอตเตอรี่ 2 ใบนี้ไว้ จึงรีบขอให้ภรรยาช่วยกดโทรศัพท์เช็กเลขรางวัล 

นายเอ คาดหวังเพียงแค่ถูกรางวัลเล็ก ๆ อย่างเลขท้าย 2 ตัว จึงถามภรรยาไปว่า รางวัลเลขท้าย 2 ตัวมี 72 ไหม ภรรยาของเขาก็ก้มหน้าค้นหาอยู่สักพัก ก่อนที่บอก (บ่น) สามีว่า เอาไปทิ้งถังขยะเถอะ ซื้อมากี่ครั้งก็ไม่เคยเห็นจะถูกรางวัล ทางสามีได้ยินเช่นนั้นจึงลุกขึ้นพร้อมกับหยิบลอตเตอรี่ไปฉีกแล้วโยนทิ้งริมถนน ส่วนอีกใบไปเผาทิ้งในกองขยะ

จนกระทั้งผ่านไปได้ 10 นาที อยู่ ๆ หญิงคนขายลอตเตอรี่ก็รีบขี่จักรยานมาที่บ้านของนายเอ เพื่อแจ้งข่าวดีด้วยความดีใจสุดขีดว่า ลอตเตอรี่ 2 ใบที่เขาซื้อไปจากเธอนั้น ถูกรางวัลที่ 1 คิดเป็นมูลค่าใบละ 30 ล้านดอง รวมเป็น 60 ล้านดอง หรือราว 87,000 บาท (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเงินที่ไม่น้อยในสมัยนั้น

ในเวลานี้เขาและภรรยาเป็นเหมือนคนที่สูญเสียจิตวิญญาณ หลังจากได้ยินข่าวจากคนขายลอตเตอรี่ เขารีบไปดูที่บริเวณถนนก่อนที่จะพบลอตเตอรี่ที่ถูกฉีกขาดและยับยู่ยี่ จากนั้นก็รีบไปที่กองขยะตรงสนามหญ้า ด้วยความหวังว่าพระเจ้าจะยังมีความเมตตา ลอตเตอรี่อีกใบอาจจะยังอยู่ แต่เขาค้นหาและพบเพียง…ขี้เถ้าเท่านั้น

รางวัลที่ 1 ที่นายเอควรจะได้รับ กลับลอยหายวับไปในอากาศ เขาไม่สามารถนำมันไปรับเงินได้ เนื่องจากตามกฎหมายระบุว่า ลอตเตอรี่ที่นำมาขึ้นรางวัลจะต้องมีชิ้นส่วนครบถ้วน เหตุการณ์นั้นทำให้เขารู้สึกเศร้าใจมาก ถึงขนาดพ่อของเขานอนซึมเป็นวัน ๆ ด้วยความเสียใจต่อลูกชายที่ทำงานอย่างหนัก หาเงินมาเสี่ยงโชคจนถูกรางวัล แต่สุดท้ายดันไม่มีโอกาสแม้จะได้สัมผัสเงินนั้น

ทางด้านนายเอและภรรยาต่างก็รู้สึกเสียใจมากเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามเขาโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ไม่ตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจทิ้งลอตเตอรี่ไป หรือบางทีถ้าเขาเป็นคนตรวจสอบรางวัลเองตั้งแต่แรก ไม่ได้ขอให้ภรรยาช่วยดู ชีวิตของครอบครัวเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ข้อมูลจาก blogtuan

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ