หนุ่มโพสต์ สูญเสียลูกสาวฝาแฝด ไม่มีแม้แต่จะได้อุ้มลูกได้ยินเสียงลูก

หนุ่มโพสต์ สูญเสียลูกสาวฝาแฝด ไม่มีแม้แต่จะได้อุ้มลูกได้ยินเสียงลูก

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 กรณีโลกโซเชียล ผู้ใช้เฟสบุ๊ค พี่บูม ใต้เต๊กตึ้ง มีการโพสต์ภาพทารกลูกแฝดหญิง2คนที่เสียชีวิตที่ รพ. พร้อมข้อความระบุว่า พ่อกับแม่ รักลูกทั้งสองคนมากนะพ่อกับแม่รอน้องกลับมาเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีกครั้งนะ อยู่ทางนั้นก็ดูแลตัวเองดีๆนะลูกนะอยากได้อะไรหรือมีอะไรก็มาบอกพ่อกับแม่นะ #นางฟ้าของพ่อกับแม่ทั้งสองหลับให้สบายนะลูกนะ #ลูกแพรวา #ลูกไพลิน #ทำไมโลกจึงใจร้ายกับครอบครัวเราที่ไม่ให้เราอยู่ด้วยกัน ส่วนอีกโพสต์ ระบุ การสูญเสียของผมทำให้รู้ว่าตอนนี้กว่าจะได้ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับโรงพยาบาลรัฐมันล่าช้า และการที่คุณตรวจคุณไม่แน่ใจตรวจซ้ำตรวจซ้อนเวลามันก็เดินไปเรื่อยถ้าคุณตรวจแล้วคุณไม่แน่ใจ ไม่มีความชัดเจนทำไม่ไม่รีบส่งตัวไปสถานที่ที่พร้อมกว่านี่พวกคุณทำงานกันช้ามากทำให้ผมสูญเสียลูกไปพร้อมกันถึง2คนในเวลาเดียว ลูกผมแฝดผู้หญิงทั้ง2คน น่ารักทั้ง2คน แต่นี่ผมไม่มีแม้แต่จะได้อุ้มลูกได้ยินเสียงลูก

วันที่ผมรอคอยจะได้อุ้มลูกได้ยินเสียงลูก กลายเป็นวันที่ลูกเสียชีวิตและเต็มไปด้วยความเสียใจและน้ำตา ซึ่งจาการโพสต์ข้อความและภาพทารกลูกแฝดที่เสียชีวิตดังกล่าว ทำให้ชาวโซเซียลแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ในครั้งนี้ และแสดงความความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเซียล ต่อมานายสุทธิศักดิ์ ชนะวรรณ์ อายุ 25 ปี หรือ บูม ใต้เต๊กตึ้ง ซึ่งเป็นคนโพสต์ข้อความและภาพดังกล่าว พร้อมด้วย น.ส.ธมลวรรณ ศรีชอุ่ม อายุ 18 ปี สองสามีภรรยาและเป็นพ่อแม่ของเด็กทารกลูกแฝดดังกล่าว เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เพื่อให้ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม โดยหอบเอกสารภาพถ่ายลูกแฝดที่เสียชีวิตและใบแจ้งเกิดและใบมรณะบัตรของลูกแฝดคนพี่ ชื่อ ด.ญ.กัญญาณัฐ ชนะวรรณ์ อายุ 38 นาที มาแสดงกับสื่อมวลชน ส่วนใบแจ้งเกิดและใบมรณภาพของแฝดหญิงคนน้องไม่มี เนื่องจากเสียชีวิตในครรภ์ของแม่เสียก่อน นายสุทธิศักดิ์ และ น.ส.ธมลวรรณ สองพ่อแม่เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า น.ส.ธมลวรรณ ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน 4 วัน หรือ 36 สัปดาห์ โดยภรรยาของตนฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลพรหมคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช

ซึ่งตลอดเวลาตนและภรรยา ไม่ทราบว่าเลยว่า ภรรยาตั้งครรภ์ลูกแฝด แต่ทราบเพียงว่าครรภ์เป็นเพศหญิงคนเดียว กระทั้งเช้าวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ภรรยาปวดท้องคลอด ตนจึงพาภรรยาไปหาหมอที่โงพยาบาลพรหมคีรี ตั้งแต่เวลา 8.30 น.ซึ่งแพทย์ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลพรหมคีรี กระทั่งช่วงบ่ายภรรยาอาการไม่ดีขึ้น ประกอบกับชีพจรทารกเต้นช้าผิดปกติ โรงพยาบาลพรหมคีรี จึงนำภรรยา ส่งต่อโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเพื่อทำการรักษาและทำคลอดเร่งด่วน

ปรากฏว่าเมื่อถึงโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แพทย์ทำการตรวจครรภ์อย่างละเอียดจนพบว่าภรรยาของตนตั้งครรภ์แฝดหญิง แต่อาการทารกทั้งสองไม่ค่อยดี การเต้นของหัวใจช้าลงผิดปกติแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช รีบทำการผ่าท้องทำการคลอดแฝดคนแรกเป็นเพศหญิง ออกมาดูโลกได้เพียง 38 นาที ก็เสียชีวิต ส่วนแฝดหญิงคนน้องเสียชีวิตในครรภ์ ซึ่งน้ำหนักแฝดพี่ 1.86 กก.และแฝดน้องน้ำหนัก 1.30 กก. ถือว่าเป็นน้ำหนักปกติของทารก

นายสุทธิศักดิ์ เล่าอีกว่า แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตของทารกแฝดของตนทั้งสองระบุ ภาวะขาดออกซิเจนในทารกแรกเกิด สร้างความเสียใจให้กับตนและภรรยา รวมทั้งครอบครัวร้องร่ำไห้แทบขาดใจ จากนั้นตนและภรรยารับศพทารกลูกแฝดทำพิธีทางศาสนาและฝังที่วัดวังลุง ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะโพสต์ภาพและข้อความลงเฟสบุ๊คของตนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกแฝด ตนและภรรยาอยากรู้ว่าทำไมตลอดเวลาที่ภรรยาของตนไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลพรหมคีรี ตนและภรรยา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภรรยาของตนตั้งครรภ์ลูกแฝด หากรู้แต่เนิ่นๆตนและภรรยาก็จะได้หาวิธีดูแลครรภ์ให้ดีเป็นพิเศษให้มากกว่านี้ แต่นี่เพิ่งมารู้ว่าภรรยาของตนตั้งครรภ์ลูกแฝดตอนอายุครรภ์ 8 เดือน และรู้ตอนถูกส่งตัวต่อไปโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งอาการหนักมากแล้ว จนแพทย์โรงพยาบาลมหาราชฯ ช่วยเหลือไม่ทัน โชคดีที่ภรรยาของตนรอดปลอดภัยมาได้ ตนภรรยาและญาติๆอยากให้โรงพยาบาลพรหมคีรี ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า

ลูกแฝดของตนเสียชีวิต เพราะอะไร เกิดจากเพราะความผิดพลาดและวินิจฉัยโรคผิดพลาดของแพทย์คนไหนกันแน่ ตนอยากรู้ว่าทำไมตลอดเวลาที่ตั้งครรภ์ฝากครรภ์กับแพทย์โรงพยาบาลพรหมคีรี ถึงไม่รู้หรือรู้แต่ไม่แจ้งให้ตนและภรรยาทราบว่า ตั้งครรภ์ลูกแฝด ปล่อยให้เกิดความผิดพลาด ทำให้ลูกแฝดของตนเสียชีวิตทั้งสองคนแบบนี้ ตนขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนครั้งนี้เป็นกรณีศึกษา ไม่อยากให้เกิดกับคนอื่นๆอีกต่อไป ซึ่งตนจะรอฟังคำชี้แจงของแพทย์โรงพยาบาลพรหมคีรีและผู้เกี่ยวข้อง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ