ตำรวจไซเบอร์ จับท้าวแชร์หัวนักธุรกิจ ให้ลูกแชร์กู้ต่อ เงินหมุนเวียนทั้งปีกว่า 24 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ จับท้าวแชร์หัวนักธุรกิจ ให้ลูกแชร์กู้ต่อ เงินหมุนเวียนทั้งปีกว่า 24 ล้าน

เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2567 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.กก.1 บก.สอท.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อุดม อิสโร และ พ.ต.ท.อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์ สว.กก.1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวน ได้สืบสวนจนทราบว่า นางสาวจอย (นามสมมติ) อายุ 43 ปี มีพฤติการณ์ใช้สื่อสังคมออนไลน์ Facebook โพสต์ชักชวนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในการเล่นแชร์ และให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เป็นการขูดรีดและเอารัดเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลแขวงกระบี่ เข้าทำการตรวจค้นบ้านของนางสาวจอย ผลการตรวจค้นพบสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวนมาก และยังพบหลักฐานการโพสต์ชักชวนและการปล่อยเงินกู้นอกระบบ

สอบถามนางสาวจอย ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นท้าวแชร์ให้กับลูกแชร์ในพื้นที่มานานกว่า 5 ปี โดยมีทั้งวงแชร์เงิน และวงแชร์ทอง จากนั้นเมื่อเริ่มมีเงินเก็บจากการเป็นนายวงแชร์เพิ่มมากขึ้นก็จะปล่อยเงินให้กับลูกแชร์กู้ยืม โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือร้อยละ 240 ต่อปี ซึ่งตนจะเรียกเก็บดอกเบี้ยเป็นงวด ซึ่งภายใน 1 เดือน จะเรียกเก็บดอกเบี้ย 3 งวด ทั้งนี้ก็จะมีส่วนที่ลูกแชร์ซึ่งกู้ยืมเงินจะต้องจ่ายดอกเบี้ย ก็จะทำการหักยอดเงินจากค่าแชร์ ทำให้ได้เงินไม่เต็มจำนวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเป็นท้าวแชร์รายใหญ่ในพื้นที่กระบี่ จำนวนกว่า 12 วง มีลูกแชร์รวม 244 คน พบยอดเงินหมุนเวียนต่อปีรวมกว่า 24 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน

1.ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ (1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

2.ประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.เป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงและมีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน

4.โฆษณาชี้ชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในการเล่นแชร์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เรียบเรียง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ