เมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 14 เมษายน 2567 ร.ต.ท.พิศิษฐ์ จองจารุวงค์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ปทุมฯ ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงพลัดตกตึกเสียชีวิต

เหตุเกิดที่คอนโดแห่งหนึ่ง หลังมหาวิทยาลัยรังสิต ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต แพทย์และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

ในที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น บริเวณด้านข้างคอนโด เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบต่อมา น.ส.บี (นามสมมติ)อายุ 27 ปี บ้าน จ.กาญจนบุรี เป็นนักศีกษามหาวิทยาลัยรังสิต คณะทัศนมาตรศาสตร์ ปี 8 พักอยู่ชั้น5 สภาพนอนเสียชีวิตชุดนอนเลือดไหลเต็มตัว

สอบถาม นายสมเกียรติ อายุ 60 ปี รปภ.บอกว่า ขณะนั่งอยู่ก็ได้ยินเสียงดังมาก เมื่อมองไปดูที่ลานจอดรถก็เห็นว่ามีคนตกลงมาด้านล่าง จึงโทรศัพท์หาแม่บ้าน และมีเด็กนักศึกษาที่นั่งกันอยู่เรียกรถกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ

น.ส.เอ (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนกับผู้เสียชีวิตพักอยู่ห้องด้วยกัน ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้ออกไปเที่ยวสถานบันเทิงและได้กลับมาห้องเวลาประมาณ 01.00 น

จากนั้นตนได้หลับไปและตื่นเวลา 02.50 น. เพราะได้ยินเสียงกรีดร้อง ตนจึงออกมาดูที่ระเบียง พบ น.ส.บี เพื่อนนอนนิ่งอยู่บริเวณทางขึ้นลานจอดรถของตึก โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตออกมานอกระเบียงเวลาใด

ด้านนายซี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เพื่อนผู้ตายบอกว่า ตนมาพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ จึงโทรแจ้งกู้ภัยให้การช่วยเหลือ CPR โดยต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้งว่าเพื่อนได้เสียชีวิต

ผู้ตายเรียนหมอตาเรียนมา 8 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี58 ปกติผู้ตายพักอยู่กับเพื่อนสองคน ตอนที่ผู้ตายตกลงมาน้องเขายังไม่รู้เรื่องกระทั่งได้ยินเสียงคนร้อง จึงเปิดระเบียงออกมาดู ก็พบเพื่อนนอนอยู่ด้านล่าง

ผู้ตายกับเพื่อนพักอยู่ชั้น5 เพื่อนบอกว่าเขาเข้าไปนอนตอนเที่ยงคืนกว่า ส่วนผู้ตายกลับมาประมาณ 01.00 น. กลับจากดื่มเห็นเพื่อนน้องบอกว่า ผู้ตายเครียดเรื่องสอบไม่ผ่าน ผู้ตายเคยพูดว่าเขาไม่เคยมีความคิดจะฆ่าตัวตาย แต่น่าจะเมาและพลาดพลั้งมากกว่า

ทางด้าน ร.ต.ท.พิศิษฐ์ จองจารุวงค์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้ทำการตรวจสอบและบันทึกที่เกิดเหตุและภายในห้องพักไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นมอบให้มูลนิธิปอเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ถนนซ่อมสร้าง เพื่อชันสูตรพร้อมประสานญาติมาทำการสอบสวนปมเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง