จากกรณีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้ผมได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่า สามีของ สจ.อุดร ท่านหนึ่งตบเด็กชายวัย7ขวบ ณ ศาลากลางบ้านในขณะที่เด็กกำลังเล่นฟุตบอลกันอยู่อ้างว่าตบสั่งสอนว่าเด็กพูดจาไม่สุภาพ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรพรุ่งนี้ผมและทีมข่าวจะลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริง

แต่อยากจะบอกสามีท่าน สจ.ผู้ทรงเกียรติว่าคุณไม่มีอำนาจในการที่จะไปตบตีแม้จะเป็นการสั่งสอนตามที่คุณอ้าง นี่มันเด็กอายุแค่ 7 ขวบนะเว้ย ถ้าเด็กทำอะไรไม่ดีตามที่คุณว่าจริงคุณควรติดต่อบอกพ่อแม่เค้าให้รับทราบเพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่คุณจะถือวิสาสะไปตบไปตีลูกเค้าไม่ได้

ล่าสุดวันที่ 10 เมษายน 2567 เฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจดังกล่าว ได้รับการประสานจากผู้ปกครองของเด็กชาววัย 7 ขวบ ร้องขอความช่วยเหลือขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีหลังถูกสามีของ สจ.เขต อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ตบหน้าลูกชายวัย 7 ขวบ คู่กรณีไม่ขอโทษและไม่แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ

น้องเอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ช่วงนั้นตนกำลังเตะบอลกับเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่บริเวณศาลากลางบ้าน จากนั้นฟุตบอลได้ไหลลงไปที่บริเวณถนน ตอนนั้นตนก็วิ่งลงไปกำลังจะเอาลูกบอล จังหวะนั้นมีรถขับมาตนก็บอกให้หยุด โดยยกมือสองข้างขึ้นมาแล้วพูดว่า Stop Stop

จากนั้นเพื่อนรุ่นพี่ก็วิ่งไปเอาฟุตบอล ได้บอลแล้วก็พูดว่า thank you และยกมือไหว้ จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปจอดห่างไปไม่ไกล แล้วเดินลงมาหาแล้วก็พูดว่า ชูนิ้วกลางใส่ผู้ใหญ่ทำไมมันไม่ดี จากนั้นเขาก็จับที่บริเวณไหล่แล้วเขาก็ตบหน้าหนึ่งที ตบเสร็จแล้วก็ถามว่าบ้านอยู่ไหนลูกใคร ก่อนขึ้นรถไป เขาก็พูดกลับมาอีกคำว่าเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับกู

ด้านผู้ปกครองของน้องเอ อายุ 7 ปี เล่าว่า หลังจากเหตุการณ์รู้สึกเสียใจ ลูกเรายังเด็กอายุเพียง 7 ขวบ ถูกผู้ใหญ่ ทำร้ายร่างกาย หลังจากเกิดเหตุตนได้เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหาน ต่อมาฝั่งคู่กรณีก็มาหาที่บ้านมาบอกว่าที่ทำไปเพราะอยากจะสั่งสอน ยอมรับว่าตบแต่ตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งจริงๆหาก เขาคิดว่าลูกหนูผิดพูดจาไม่ดีจะทำไม่ดี เขาเป็นผู้ใหญ่ควรจะมาบอกพ่อกับแม่ไม่ใช้ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายเด็กแบบนี้ตบเด็กแบบนี้

หลังเกิดเหตุเขาเดินทางมาที่บ้านกับภรรยาเขาที่เป็น สจ.เขตอ.หนองหาน โดยมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง แต่ไม่เคยได้คำขอโทษหรือการแสดงออกที่จะสำนึกผิด เรื่องราวที่เกิดขึ้นส่วนตัวพ่อกับแม่นั้นอยากให้ทางคู่กรณีมีเจตนาที่จะสำนึกผิดมากกว่านี้