ผอ.สนามบินแม่ฟ้าหลวง ชี้แจง หลังโซเซียลแชร์ภาพ สูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน

ผอ.สนามบินแม่ฟ้าหลวง ชี้แจง หลังโซเซียลแชร์ภาพ สูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน

วันที่ 6 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่ Red SKrull ผู้ใช้แอปทวิตเตอร์ หรือ X ได้เผยแพร่โพสต์ของผู้ใช้บริการเครื่องบินเดินทางจาก จ.เชียงราย และพบผู้โดยสารที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างๆกัน เป็นผู้โดยสารหญิง 1 ชาย 1 โดยฝ่ายผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีชมพู สวมแว่นตา ใส่แมส กำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าขณะอยู่บนเครื่องบิน โดยโพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า

สวัสดีคะ ฝากคลิปหน่อยค่ะ ดูดบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน! ไม่รู้ว่าทางสนามบินปล่อยผ่านการคัดกรองได้อย่างไร ดูดบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน ไม่เคารพต่อกฎและชีวิตส่วนรวมเลยค่ะ หน้าไม่อายมาก เขาค่อยๆพ่นควันออกมาในแมส ควันเลยไม่เยอะ ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ คาดว่าด้ามเป็นพลาสติก ออกเดินทางจากสนามบินเชียงรายค่ะ #บุหรี่ไฟฟ้า #สนามบิน #ดีออก

ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (ทชร.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่และรับทราบข่าวจากที่เผยแพร่ในโซเซียลแล้ว กับคำถามที่ว่าทางสนามบินปล่อยให้หลุดขึ้นเครื่องได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่าทางท่าอากาศยานมีหน้าที่ตรวจค้นด้านความปลอดภัย คือการตรวจค้นวัตถุต้องห้ามที่จะนำไปสู่การก่อเหตุร้ายแรงบนเครื่องบิน เช่น วัตถุระเบิด อาวุธปืน มีด หรือวัตถุต่างๆที่ผู้ประสงค์ร้ายจะนำไปก่อเหตุบนเครื่อง ก็จะมีการตรวจค้นทั้งการค้นตัวและเครื่องเอ็กซเรย์ ส่วนบุหรี่ไฟฟ้า ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ในกระบวนการตรวจค้นของทางท่าอากาศยาน มีโอกาสที่บุหรี่ไฟฟ้าจะหลุดรอดขึ้นไปบนเครื่อง เพราะตัวเครื่องทำจากพลาสติก ซึ่งไม่สามารถเอ็กซเรย์ได้ บางครั้งผู้โดยสารอาจจะเก็บไว้ติดตัว แต่หากตรวจพบก็จะทำการตรวจยึดและดำเนินการตามกฏหมาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดตั้งแต่การนำเข้ามาในประเทศแล้ว

ผอ.ทชร. เผยอีกว่า การสูบบุหรี่บนเครื่องบินมีความผิด 2 กฏหมายหลัก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข มีความผิดตาม พรบ.การสูบบุหรี่ ซึ่งการเดินทางสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถโดยสาร อาคารผู้โดยสาร หรือแม้แต่บนเครื่องบิน จะห้ามสูบบุหรี่ ความผิดอีกอย่างคือ พรบ.ความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ ข้อห้ามการสูบบุหรี่บนเครื่องบิน เพราะอาจก่อความรำคาญแก่ผู้อยู่บนเที่ยวบิน ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อยากจะฝากไปยังผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้ ผู้โดยสารควรจะรีบแจ้งลูกเรือ เพื่อที่ลูกเรือจะได้แจ้งนักบินผู้บังคับอากาศยาน เพื่อประสานสนามบินหรือท่าอากาศยานปลายทาง และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมผู้กระทำความผิด โดยหลังจากนี้จะมีการดำเนินการจะประสานไปยังสายการบิน ว่าสายการบินไหนที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และเช็ครายละเอียดว่าเป็นเที่ยวบินไหน เวลาเท่าไหร่ ปลายทางที่ไหน และตัวผู้กระทำผิดเป็นใคร และจะประสานท่าอากาศยานปลายทางเพื่อติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ผอ.ทชร. กล่าว

ผอ.สมชนก เผยเพิ่มเติมว่า กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ล่าสุดทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ทราบแล้วว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนสายการบินอะไร และขั้นตอนต่อไปจะต้องไปประสานกับสายการบินเพื่อให้ติดตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย

เรียบเรียง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เชียงราย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ