วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 โดยจนท. ร่วมกันจับกุมนายอิทธิโชค หรือเติ้ล อายุ 23 ปี ผู้ผลิตและจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนทางออนไลน์ สถานที่จับกุม/ตรวจยึด บริเวณบ้านเลขที่แห่งหนึ่งซ.ทานสัมฤทธิ์ 21/3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

พร้อมด้วยของกลาง จำนวน หลายรายการดังนี้

1.ปืนแบงค์กันแปลงยี่ห้อ kuzey พร้อมซองกระสุน และซองปืน

2.กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 8 นัด

3.ปืนแบงค์กันระหว่างดัดแปลงยี่ห้อ glock19 พร้อมซองกระสุน

4.ปืนแบงค์กันระหว่างดัดแปลงยี่ห้อ sur พร้อมซองกระสุน

5.ปืนแบงค์กันระหว่างดัดแปลงยี่ห้อ glock19 พร้อมซองกระสุน

6.ปืนแบงค์กันระหว่างดัดแปลงยี่ห้อ glock19 พร้อมซองกระสุน

7.ซองกระสุน จำนวน 3 อัน

8.ลำกล้องขนาด .380 จำนวน 3 ลำกล้อง

9.ไกด์ล็อทพร้อมสปริง จำนวน 4 อัน

10.ไกด์ล็อท จำนวน 3 อัน

11.ลูกแบงค์กันขนาด 9 mm p.a.k. จำนวน 1 กล่อง 50 นัด

พร้อมด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ ที่ใช้ในการผลิตและดัดแปลงอีกหลายรายการ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3กก.สายตรวจ ได้สืบสวนหาข่าว ว่ามีวัยรุ่นโฟสต์ขายอาวุธปืนผ่านทางแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก และได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาอยู่บ้านเลขที่ แห่งหนึ่ง ซ.ทานสัมฤทธิ์ 23/1 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งมีพฤติกรรมในการลักลอบ ผลิต และจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนผ่างทางแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก ให้แก่กลุ่มวัยรุ่น

กระทั่งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงให้สายลับทำการล่อซื้ออาวุธปืนดังกล่าว ผ่างทางแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก และได้นัดหมายสถานที่ส่งของ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3 ได้เดินทางไปยังสถานที่นัดหมายและสุ่มดูพฤติการณ์ ในเวลาต่อมาขณะนายอิทธิโชคหรือเติ้ล เป็นบุคคลตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายหลับ เดินออกมาจากที่บ้านพักอาศัยพร้อมกับในมือถือกล่องพัสดุต้องสงสัย เพื่อเตรียมส่งให้กับสายลับ เมื่อถึงเวลานัดหมายนายอิทธิโชคฯ ได้นำกล่องพัสดุยื่นให้กับสายลับ ตรงบริเวณหน้าบ้านของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและขอตรวจค้นกล่องพัสดุดังกล่าว พบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวมีอาวุธปืนแบงค์กันแปลงยี่ห้อ kuzey ที่ดัดแปลงพร้อมใช้งานเพื่อให้ใช้ยิงกระสุนจริง พร้อมซองกระสุน ซองปืน และกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 8 นัด ซุกซ่อนอยู่ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า ได้เตรียมอาวุธปืนดังกล่าวใส่ไว้ในกล่องพัสดุเพื่อส่งให้กับสายลับที่ล่อซื้อจริง

จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพักอาศัย พบเครื่องมือ และอุปกรณ์ ที่ใช้ในการผลิตและดัดแปลงอีกหลายรายการ สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการผลิต, ครอบครองอาวุธปืน,เครื่องกระสุนปืน, อุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน โดยได้ทำการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ มาแล้วประมาณ 11 เดือน จริง โดยอาวุธปืนดังกล่าวที่พบภายในบ้านพัก เตรียมไว้เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นผ่านทางแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊กโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ผลิต, ครอบครองอาวุธปืน,เครื่องกระสุนปืน, อุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย ยาเสพติด หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191

เรียบเรียง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.กรุงเทพมหานคร