จนท.ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ - พนันออนไลน์ ลอบลากสายอินเตอร์เน็ตมุดดิน-ข้ามแดน

จนท.ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ - พนันออนไลน์ ลอบลากสายอินเตอร์เน็ตมุดดิน-ข้ามแดน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปอท.ชุดร่วมตรวจค้น กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พร้อมตรวจยึดของกลาง (ตามบัญชีสิ่งของตรวจยึดแนบท้าย) สถานที่ตรวจค้น

1. อาคารไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ม.7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

2. บริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ศูนย์ AOC กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำการปราบปรามการกระทำความผิดออนไลน์เชิงรุก เป็นที่มาให้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ตั้งชุดสายตรวจออนไลน์ เพื่อติดตามและตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย จากการสืบสวนพบเว็บไซต์กระทำความผิดทางออนไลน์ ที่มีการใช้บริการอินเตอร์เน็ต อยู่ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ล่าสุด. เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้สนธิกำลังบูรณาการกับ ภ.จว.สระแก้ว, เจ้าหน้าที่ กสทช. และ กองกำลังบูรพา นำหมายค้นจากศาลอาญมีนบุรี และศาลจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.สระแก้ว

โดยจุดแรก เป็นอาคารสำนักงานขายคอนโดมิเนียม แห่งหนึ่งที่ ไม่ได้มีการก่อสร้าง ลักษณะเป็นอาคารร้าง อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ โดยมีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เป็นผู้ขอใช้บริการติดตั้งอินเตอร์เน็ต ภายในอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นสายอินเตอร์เน็ต แบบ leased line ความเร็วสูง (1000mbps/200mbps) ซึ่งมากกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตตามบ้านเรือนทั่วไป อย่างผิดสังเกต นอกจากนี้ยังพบว่า มีการลักลอบฝังสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ลากผ่านที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้างดังกล่าว เป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ก่อนจะข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา และพบอีกว่า มีการขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในลักษณะเดียวกัน มาติดตั้งยังอาคารดังกล่าว รวมทั้งหมด 6 วงจร ตรวจสอบพบหมายเลข IP ที่เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลขมีชื่อผู้ขอใช้บริการอินเตอร์เน็ต จำนวน 4 ราย แต่พบว่าผู้ชำระค่าบริการรายเดือน กลับเป็นบุคคลคนเดียวกัน

ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนรถขุดดินจากกองกำลังบูรพาฯ เพื่อหาแนววางสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ฝังอยู่ใต้ดิน และลากผ่านไปประเทศกัมพูชา ระหว่างการตรวจค้นอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบว่าสายอินเตอร์เน็ตฯ มีร่องรอยถูกตัดจำนวน 3 เส้น จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าค้นอาคารดังกล่าวไม่ถึง 1 ชม. ปรากฏภาพชาย 2 คน เข้ามาทำการตัดสายอินเตอร์เน็ตดังกล่าว จึงได้ติดตามตัวชายทั้ง 2 คนมาสอบถาม ได้ความว่ารับคำสั่งจาก “นาย ป.” เจ้านายให้มาตัดสายฯดังกล่าว

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุด เข้าตรวจสอบบริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตฯ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ หลังพบว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อขอใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง ที่จ.สระแก้ว พบตัว “นาย ก.” เป็นกรรมบริษัทฯ และเป็นผู้ชำระค่าบริการอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการเช่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่อาคารร้างดังกล่าว และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง รวม 9 รายการ จากการสอบถาม “นาย ก.” รับว่าตนเป็นผู้ขอใช้อินเตอร์เน็ตฯและติดตั้งสายสัญญาณด้วยตนเอง รับว่าจ้างมาจาก “นาย ป.” เป็นรายเดือน เดือนละ 300,000 บาท เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว เป็นความผิด ตาม มาตรา 67 (1) พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เรียบเรียง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ