สลด! ลูกสะใภ้วัย 22 เสียชีวิตอย่างปริศนา พ่อสามีเผยยังคุยกันตอน 5 ทุ่ม แต่ จนท. บอก เสียมา 2 วันแล้ว

สลด! ลูกสะใภ้วัย 22 เสียชีวิตอย่างปริศนา พ่อสามีเผยยังคุยกันตอน 5 ทุ่ม แต่ จนท. บอก เสียมา 2 วันแล้ว

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพัก หมู่ 5 ต.วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.อัมพวา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณหลังบ้านถูกสร้างเป็นห้องนอน มีห้องน้ำในตัว จากการภายในห้องพบศพ น.ส.อัจฉรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี นอนหงายอยู่บนที่นอน สวมเสื้อสีขาว เปลือยท่อนล่าง มีผ้าห่มลายการ์ตูนสีชมพูปิดบริเวณช่วงเอวลงมาไว้ ข้างศพด้านขวา มีกางเกงสีขาววางอยู่ 1 ตัว ด้านซ้ายมีแก้วน้ำ 1 ใบ และหวีสีเขียว 1 อัน ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นแต่อย่างใด ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน

ทางด้าน น.ส.สมหมาย อายุ 57 ปี แม่สามีของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงเย็นวันนี้ตนรดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้าน ได้กลิ่นเหม็นเน่า และก็เอะใจว่าวันนี้ยังไม่เจอหน้าลูกสะใภ้ จึงไปตามสามีให้มาเปิดประตูห้องดู ซึ่งห้องไม่ได้ล็อก ก็พบว่าลูกสะใภ้เสียชีวิตไปแล้ว

ในขณะที่ นายสุวิทย์ อายุ 59 ปี พ่อเลี้ยงของสามีผู้ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อช่วง 5 ทุ่มวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนยังเห็นลูกสะใภ้นั่งกินข้าวอยู่ ยังทักทายพูดคุยกันตามปกติ แล้วก็แยกย้ายกันไปนอน กระทั่งรุ่งเช้าตนไม่เห็นลูกสะใภ้ก็คิดว่าคงอยู่ในห้องตามปกติที่ลูกสะใภ้จะอยู่ในห้องไม่ออกไปไหนทุกวัน กระทั่งมาเจอศพดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า สามีของผู้เสียชีวิตอยู่ภายในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร โดยพ่อเลี้ยงสามีเพิ่งไปรับจาก อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มาอยู่ที่บ้านประมาณ 1 เดือน 5 วัน และอยู่ในห้องพักไม่ได้ออกไปไหน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตพบพิรุธที่เปลือยกายท่อนล่าง เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ผิวขาว หุ่นดี

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บพยานวัตถุต่าง ๆ ไปตรวจสอบอย่างละเอียด และส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ว่ามีร่องรอยการกระทำชำเราหรือไม่ และเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร เพื่อประกอบกับพยานวัตถุ และได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไปสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ