ผู้ต้องหาเมาอาละวาด ทำร้ายผู้อื่น ถูกจับผูกคอดับคาห้องขัง

ผู้ต้องหาเมาอาละวาด ทำร้ายผู้อื่น ถูกจับผูกคอดับคาห้องขัง

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.ชัชวาล โตโสภณ ผกก.สภ.ปรือใหญ่ ได้รับแจ้งมีเหตุผู้ต้องหาผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขัง สภ.ปรือใหญ่ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุเทน ดวงพิมพ์ สว.(สอบสวน) สภ.ปรือใหญ่ และแพทย์เวร รพ.ขุขันธ์ ไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงภายในห้องควบคุมตัว พบ นายอี ศรีคำภู อายุ 57 ปี ชาว อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ใช้เสื้อของตนเองผูกติดกับลูกกรงห้องควบคุมและรัดคอตนเองเสียชีวิต ในท่านั่งคุกเข่า มือจับลูกกรง

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมาอยู่กินกับภรรยาที่บ้านแสนสุข หมู่ 12 ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เคยถูกจำคุก 6 เดือน ในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น และได้ออกจากเรือนจำมาอยู่กินกับภรรยาดังเดิม และเคยมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้งเรื่อยมา กระทั่งก่อนเกิดเหตุ ช่วงค่ำวานนี้ (21 มี.ค.67) ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุผู้ตายได้มีอาการมึนเมาสุรา ประพฤติตนวุ่นวาย และทำลายทรัพย์สินผู้อื่นจนได้รับเสียหาย เกรงว่าจะก่อเหตุร้ายแก่ทรัพย์สินและชีวิตของผู้อื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปราม จึงได้เข้าระงับเหตุ และได้นำมาควบคุมตัวที่ห้องควบคุม ของ สภ.ปรือใหญ่ ต่อมาผู้ตายได้ถอดเสื้อแล้วใช้เสื้อผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องควบคุม และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านแสนสุข ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นางมะลิน ปรือปรัง อายุ 57 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่ง นางมะลิน ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนกับผู้ตายแต่งงานมีลูกด้วยกัน 5 คน เป็นหญิง 4 ชาย 1 เดิมทีผู้ตายทำงานขับรถส่งวัสดุก่อสร้างที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในอำเภอขุขันธ์ และเดิมผู้ตายเป็นคนนิสัยดีชอบช่วยเหลือชาวบ้านขยันทำมาหากิน พอมาช่วงหลังๆ ผู้ตายกินเหล้าหนัก จนทำให้สมองเลอะเลือน และเคยติดคุกในคดีเมาทำร้ายร่างกายผู้อื่นในช่วงปี 2565 โดยติดคุกประมาณ 6 เดือน พอช่วงปี 2566 ก็ถูกปล่อยตัวออกมา หลังถูกพ้นโทษไม่นานก็มีการไปบวชได้ 2 เดือน แล้วสึกออกมาเมื่อเดือน ก.พ. 2567

หลังจากสึกออกมาผู้ตายก็ยังมีพฤติกรรมกินเหล้าอยู่เหมือนเดิม และเวลาเมาก็ยังมีการก้าวร้าวทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวโดยเฉพาะตน(ภรรยา) จนมาเมื่อวานช่วงบ่ายของวันที่ 21 มี.ค. 67 ผู้ตายไปดื่มเหล้าแล้วก็เมาอาละวาดและจะทำร้ายร่างกายตน จะเอาไขควงมาแทงตน ตนจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไปสถานีตำรวจ เพื่อสงบสติอารมณ์ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนที่ช่วงค่ำของวันที่ 21 มี.ค. 67 ตนมารู้ข่าวสามีอีกครั้งว่าสามีผูกคอเสียชีวิตในห้องขัง ซึ่งหลังจากรู้ว่าตนรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยการเสียชีวิต เพราะกล้องวงจรปิดชี้ชัดว่าสามีของตนผูกคอเสียชีวิตเอง ไม่มีใครทำร้าย ซึ่งก่อนหน้านี้สามีตนก็เคยผูกคอตัวเองมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นผู้คนมาเห็นก่อนจึงสามารถช่วยชีวิตไว้ได้

เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ศรีสะเกษ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ