แม่ยายขนลุกเกรียว เชื่อวิญญาณสามีที่ถูกน้องยิงสิงปืน พาลูกเขยลั่นไก 3 ราย

แม่ยายขนลุกเกรียว เชื่อวิญญาณสามีที่ถูกน้องยิงสิงปืน พาลูกเขยลั่นไก 3 ราย

เมื่อช่วงเช้าผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังบ้านที่เกิดเหตุกรณีฆ่าโหด 3 ศพ ได้พบกับนายประจิต คำลือชา อายุ 64 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านหลังนี้มีนายสีไพร โสเพ็ชร ผู้ตายอยู่คนเดียว ช่วงเย็นมักจะมีกลุ่มวัยรุ่น เข้ามามั่วสุมดื่มสุราเสพยากันซึ่งคนย่านนี้รู้จักดี อดีตนายสีไพรเป็นเพื่อนบ้านกันเมื่อก่อนนิสัยดี มีฐานะร่ำรวย ที่ที่ดินกว่า 100 ไร่ จนมาหลงผิดติดยา ฆ่าสามีพี่สาวตาย และใช้ไฟฟ้าช็อตปลาในลำห้วยพลาดไปโดนเด็กชายสองพี่น้องตายคู่ และยังมีคดีใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส และก่อเหตุออุฉกรรจ์หลายครั้ง หลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการหลอนทำร้ายทุบตีภรรยาและลูกจนทุกคนทนไม่ไหวหนีไป ซึ่งนายสีไพรเคยมีภรรยามาแล้วกว่า 3 คน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังบ้านนางกอแก้ว พุดชง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายนายอนุวัฒน์ มือปืนเล่าว่านายอนุวัตรลูกเขยเป็นคนทำมาหากิน ไม่มี ประวัติเสพยาพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติดใดๆทั้งสิ้น ประกอบอาชีพสุจริต ชาวบ้านรักใคร เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัวบ้างถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่คนโมโหร้ายก้าวร้าวแต่อย่างใด ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุใดลูกเขยถึงได้ระห่ำ พกปืนของพ่อ ไปกระหน่ำยิงนายสีไพรน้องชายกับพวกตายอย่างเหี้ยมโหดถึง 3 ศพ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายสีไพร ผู้ตายได้เดินทางเข้าไปในไร่มันสำปะหลังเพื่อขอเงินจำนวน 100 บาทซื้อยาบ้า ซื้อเหล้ากิน ซึ่งตนเองก็ให้มาทุกครั้งมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่รู้ว่าลูกเขยกับน้องชายเขามากระทบกระทั่งกันตอนไหน จนมาทราบอีกทีว่าลูกเขยก่อเหตุยิงคนตายถึง 3 ศพ

นางกอแก้ว แม่ยาย มือปืนโหดเล่าต่อว่าเมื่อประมาณ ปี 2542 ผ่านมาประมาณ 25 ปีนายสีไพรน้องชาย สติแตกจากการเสพยาคลุ้มคลั่ง ได้ก่อเหตุยิงสามีตนต่อหน้าต่อตาตายคาอ้อมกอด ถูกดำเนินคดี แต่พ่อตนเองก็ขอให้อภัยน้อง และต่อสู้คดีจนหลุดพ้น ยอมรับว่าเสียใจต่อการสูญเสีย วันเวลาผ่านไปตนเองก็ไม่ได้ติดใจน้องชาย จนน้องมาก่อเหตุใช้ไฟฟ้าช็อตปลา พลาดทำเด็กเสียชีวิตถึง 2 คน ในพื้นที่ห้วยขุนราม เสียเงินนับไม่ถ้วนเพื่อต่อสู้คดี และยังก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนร่วมวงสุราได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ถูกดำเนินคดีแต่ก็ต่อสู้คดีหลุดพ้นมาด้วยทุกครั้งเพราะพ่อประกันตัวต่อสู้คดีให้จนเหลิง จำขายที่ดินไปจนหมดกับการต่อสู้คดีและหลงผิดติดยาเสพติดแทบทุกชนิด

นางกอแก้วกล่าวต่อ ด้วยท่าทีอึดอัดใจ ก่อนบอกผู้สื่อข่าวว่าปืนที่ลูกเขยใช้ก่อเหตุฆ่า 3 ศพ เป็นปืนของนายจันทร์ โสเพ็ชร ซึ่งเป็นปืนมรดกจากพ่อของตน กระบอกเดียวกันกับนายสีไพร น้องชายใช้ก่อเหตุฆ่าสามีตัวเอง โดยไม่คิดว่านายอนุวัตรบุตรเขย ที่เพิ่งจะขอปืนไปเพื่อไว้ป้องกันตัวได้เพียงวันเดียว เอาไปก่อเหตุยิงน้องชาย และพวกตายถึง 3 คน ซึ่งตนเองไม่อยากจะคิดถึงเรื่องความเฮี้ยน ความอาถรรพ์ของปืนพ่อกระบอกนี้ เนื่องจากก่อเหตุยิงคนตายมาแล้วถึง 4 ศพ และก่อนหน้านั้นก็ไม่รู้ว่าปืนกระบอกนี้พ่อเคยปลิดชีพใครมาบ้างอยากจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับทุกคนที่ตายจากปืนกระบอกนี้ เพราะขณะนี้เชื่อว่านาจะเกิดจากความลี้ลับที่บอกไม่ได้ ในส่วนของคดีขอให้เป็ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตนเอง ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยฝากบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วยบอกลูกเขยตน ว่าไม่ต้องเป็นห่วงลูก และเมีย ขอให้ ขอให้รับสารภาพ ชดใช้กรรมที่ตนเองก่อ หมั่นทำความดี เพื่อจะได้ลดหย่อนผ่อนโทษกลับมาสู่ครอบครัวที่อบอุ่นดังเดิม

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายัง สภ.มะนาวหวาน สถานที่ควบคุมตัวนายอนุวัตรมือปืนโหด ได้พบกับคุณพ่อคุณแม่คุณย่า และภรรยาของมือปืนผู้ก่อเหตุ ซึ่งยังอยู่ในการ ตกใจ กังวล นางวัชรารัตน์ อายุ 56 ปี นายเกษม ถัดทะพงษ์ อายุ 54 ปี แม่และพ่อมือปืนกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลนอง ว่าคิดไม่ถึงว่าลูกจะกลายเป็นมือปืนโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้เพราะไม่เคยเห็น และครอบครัวก็ไม่เคยมีประวัติความเหี้ยมโหดเช่นนี้มาก่อน ซึ่งเขาคงเต็มกลั้นจนบันดาลโทสะ เช่นเดียวกันกับนางบุญเรือง ขำพินิจ อายุ 76 ปี ที่เลี้ยงนายอนุวัตรหลานชายคนเดียงของครอบครัวว่า ไม่คิดว่าหลานจะเป็นเช่นนี้ ขอให้รับสารภาพและเป็นกำลังใจให้หลานได้ต่อสู้

ด้านน.ส.สมใจ พุดชง อายุ 32 ปี ภรรยา กล่าว่าสามีของตนได้ตัดสินใจก่อเหตุเช่นนี้ได้ ซึ่งคาดว่าเขาคงจะบ่มความแค้นสะสมมานาน ตามคำพูดที่บอกกับทุกคน เกรงว่าน้าสีไพร ผู้ตาย จะมาก่อเหตุกับครอบครัวของตน ก่อนบันดาลโทสะ จากการถูกดุด่า เหยียดหยามเลยตัดสินใจลงมือก่อเหตุ โดยทางพนักงานสอบสวนได้ให้โอกาสสุดท้ายของครอบครัวเข้าเยี่ยมใกล้ชิด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความตื้นตันใจ โดยนายอนุวัตรมือปืนได้ก้มลงกราบเท้าย่า พ่อแม่ และเข้าโอบกอดลูกเมียร้องให้กันระงม ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวเข้าฝากขัง โดยยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเนื่องจากเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ซึ่งเหตุการณ์นี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปศาลจังหวัดเพื่อพิจารณาคดี

เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ลพบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ