ยายพิการติดเตียง ที่ถูกหลานเทวดาข่มขู่ทุกวัน สิ้นใจแล้ว เพื่อนบ้านอนุโมทนา สาธุ หมดสิ้นเวรกรรม

ยายพิการติดเตียง ที่ถูกหลานเทวดาข่มขู่ทุกวัน สิ้นใจแล้ว เพื่อนบ้านอนุโมทนา สาธุ หมดสิ้นเวรกรรม

วันที่ 19 มีนาคม 2567 นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านกล้วย ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่า นางสงสาร ดอกบัว อายุ 60 ปี หญิงชราที่ป่วยติดเตียง ด้วยโรคเบาหวาน มิหนำซ้ำต้องถูกตัดขา ไปใหนมาใหนไม่สะดวก เนื่องจากป่วยด้วยโรคเบาหวาน หู ตา ฝ้าฟางมองไม่ชัด มิหนำซ้ำ มีแผลกดทับที่สะโพกทั้งสองข้าง โรคซ้ำกรรมซัด หลานชายติดยาเสพติดบีบบังคับขอเงินจากตา และยายเพื่อมาซื้อเสพยาเสพติด ทุกๆ วันตาจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อหุงหาอาหารมาเตรียมไว้ให้ยายสงสารเพื่อ ไว้ทานระหว่างวัน โดยไม่ได้อยู่ดูแลยายสงสารที่อยู่ด้วยกันมาเกือบทั้งชีวิต ส่วนหลานเทวดา เมื่อตื่นขึ้นมาต้องมีอาหารไว้ให้เขาได้กิน ถ้าไม่มีอาหาร และไม่มีเงินให้ หลานเทวดาจะอาละวาดเอะอะ โวยวายทำร้ายร่างกายตา และยาย จนตาต้องไปทำงานทุกวัน

ผู้สื่อข่าว เข้าไปที่บ้านกล้วย ซึ่งเป็นตั้งศพยาย สงสาร ดอกบัว โดยนำศพออกมาจากบ้านที่อยู่ด้านใน เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย สภาพมีโลงศพโล่งๆ ไม่มีดอกไม้หน้าศพ เหมือนงานศพทั่วๆ ไปมีเพียงพวงหรีด จากนายสมาน ศรีโคตร นายกอบต.บ้านชัย จากชมรมผู้สูงอายุ ต.บ้านชัย จากบ้าน.ไทยชีวิตประกันภัย มีเพื่อนบ้านมาช่วยงานเป็นจำนวนน้อยบางตา

นางสมภาร แสนเมือง อายุ 58 ปี เป็นน้องสาวของยายสงสารและเป็นผู้จัดการศพของยายสงสาร ดอกบัว ได้กล่าวว่า ยายสงสารสิ้นใจ เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.67) เวลา 16.00 น. สำหรับการจัดงานศพ ก็คงต้องจัดแบบเรียบง่าย เนื่องจากยายสงสาร ไม่มีสมบัติอะไรหลงเหลือเลย บ้านโล่ง ๆ ตู้เสื้อผ้าพัง ใช้งานไม่ได้ ตนได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ จะได้เงินประมาณ 7 หมื่นบาท และมีสวัสดิการจากชมรมคนสูงอายุอีก 2 หมื่นกว่า คงจะพอได้ทำบุญให้นางสงสารจนงานศพเสร็จสิ้น หลังจากนั้น หน้าที่ที่ตนเคยมาดูแลพี่สาว ก็หมดไป ทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านถูกหลานชาย คือนายประกาศิต ภูพันนา ทุบเผาทำลาย ไปหมดถ้าไม่ได้ดั่งใจ

นายมีชัย ภูพันนา อายุ 60 ปี สามีของนางสงสาร และเป็นตาของนายประกาศิต ภูพันนา หรือโอ๊ต หลานเทวดา ได้กล่าวว่า ยายได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อวานนี้ ช่วงตอนผมกลับมาจากไปรับจ้างติดตั้งนั่งร้านให้ชาวบ้าน ก็ไม่ได้ดูใจแล้ว หมอมาดูแลเรื่องความสะอาดให้ สำหรับผมมีความผูกพันกับยายตั้งแต่มาอยู่ด้วยกับกับยายสงสารเมื่อปี 2525 เขามีความทุกข์ใจเรื่องหลานชายมานานหลายปี ทุกวันนี้ ก็ยังโดนบักโอ๊ตทำร้ายร่างกายเอาบ่อยๆ และในทุกๆวัน ถ้าหลานตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีกับข้าวไว้ให้เขา ก็จะถูกอาละวาดถูกทำร้ายร่างกาย ขว้างปาสิ่งของข้าวของภายในบ้านมาใส่ตลอด จึงต้องออกไปหางานทำทุกวัน แล้วแต่ใครจะว่าจ้าง ผมทำงานหาเช้ากินค่ำ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่ได้ตังค์ แต่ถ้าทำงานก็ได้ตังค์มา ซื้อกับข้าว หลังจากยายเสียชีวิตแล้ว ตนก็คงจะอยู่บ้านหลังนี้เหมือนเดิม เพราะเป็นชื่อผม ผมคงไม่ได้กลับมาบ้านดูทุกวัน ผมจะนอนที่หน้างาน เมื่อเสร็จงาน ถ้าว่างก็จะแวะมาดูบ้าน นานๆมาครั้ง

ในเวลาต่อมา นายวีระพล รักเสมอวงศ์ ได้เดินทางมาที่งานศพยายสงสารพร้อมด้วยกรอบรูปตั้งหน้าศพของยายสงสาร ดอกบัว จากนั้น ได้เดินเข้าไปในบ้านนางสงสารที่เคยอยู่ พร้อมกับบอกว่า ยายสงสาร ชีวิตจริงน่าสงสารมากกว่า เมื่อก่อนผมเคยมาช่วยเหลือเรื่องถูกหลานจะทำร้าย นำบักโอ๊ตไปบำบัดโดยใช้เงินส่วนตัว เมื่อกลับมากลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมอีก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปให้ จนท.โรงพยาบาลดูแล กลับมาก็มีชีวิตหนักกว่าเดิม ไม่ทำงาน หลังจากที่ยายสงสารป่วยติดเตียง มีหน่วยงานหลายๆหน่วยงานได้นำสิ่งของมาช่วยเหลือ ส่วนผมได้นำเตียงสำหรับคนป่วยมาให้ใช้

ได้พบนายประกาศิต ภูพันนา หรือ บักโอ๊ต หลานเทวดา ตื่นนอนแล้ว ได้ไปกราบศพยาย พร้อมกับบอกว่า รู้สึกเสียใจ ต่อไปนี้จะปรับตัวใหม่ ออกหาทำงาน ส่วนเรื่องยาเสพติดจะลด ละ เลิก และจะไปหางานทำที่ กทม. ไปทำงานเป็น รปภ.ซึ่งเคยทำมาก่อน

เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.อุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ