กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความเป็นแชตกลุ่มของครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยผู้อำนวยการโรงเรียนได้ส่งข้อความตำหนิการกระทำของครู เหตุเพราะไปนั่งเก้าอี้ของผู้อำนวยการโรงเรียน ว่าเทียบบารมี และขอให้ซื้อเก้าอี้ให้ใหม่ กระทั่งฝั่งครูสาวก็ได้ให้แฟนพาไปซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ เพื่อเตรียมมอบให้กับผอ. ในวันจันทร์นี้ พร้อมระบุว่าไม่ได้ประชดแต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน สพฐ.ได้ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวมารายงานตัวและปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่โดยทันที ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เป็นต้นไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าเป็นวันหยุด มีการใส่กุญแจประตูทั้ง 2 ด้าน

และไม่พบใครในโรงเรียน ผู้สื่อข่าวจึงได้ สอบถามชาวบ้าน ถึงความเป็นมาของการเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งทุกคนบอกว่าไม่ทราบ และเพิ่งเห็นข่าวทางโซเชียลในวันนี้ ซึ่งหลายคนต่างก็เปิดดูทางโทรศัพท์และทางคอมพิวเตอร์ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา และมีการพูดถึง พฤติกรรมของผอ.โรงเรียนนี้ ซึ่งชาวบ้านบอกว่า

การทำงานก็ยอมรับได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น ก็คือหลังจากพอคนนี้ย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้ เหตุที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้น เช่นมีการเรี่ยไรเงิน เรี่ยไรข้าว เพื่อเอาไปใช้ในกิจกรรมบางประการในโรงเรียน ซึ่งแม้ชาวบ้านจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ขัดใจ เนื่องจากลูกหลานเรียนอยู่ในโรงเรียน จึงปล่อยเลยตามเลยเรื่อยมา ส่วนการดราม่าเก้าอี้ ก็รับไม่ได้ เพราะเป็นของโรงเรียน ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินของ ผอ.

ส่วนดราม่าหวงเก้าอี้ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านและศิษย์เก่า กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแต่ก็เห็นแล้วไม่สบายใจ เพราะเป็นความขัดแย้งเป็นเหตุเกิดความแตกแยกในกลุ่มครูผู้สอนกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นเหตุเล็กๆ แค่เรื่องเก้าอี้ ก็ไม่น่าถือเป็นเรื่องจริงจังแล้วเป็นเรื่องรุนแรง

จนเกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ของครูและโรงเรียนจนถึงขนาดนี้ ทั้งยังเห็นว่า ผู้บริหารไม่น่าจะใช้อารมณ์ กับครูผู้น้อย และน่าจะพูดกันดีๆ ดีกว่าที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้าวฉาน ผิดพ้องหมองใจกันจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต โดยยึดติดกับเรื่องที่น่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ มากจนเกินไป