ยึดกางเกงช้างตาตี่นำเข้าจากจีน มูลค่ากว่า 6 ล้าน

ยึดกางเกงช้างตาตี่นำเข้าจากจีน มูลค่ากว่า 6 ล้าน

วันที่ 17 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ผู้นำตรวจค้น นายสุขุมฯ อายุ 27 ปี มีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามาตรา 246 พรบ.ศุลกากรฯ

สถานที่ตรวจค้น โกดังติดป้ายN ถนนเลียบด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้น ศาลอาญา ที่ ค.85/2567 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2567 ของกลางที่ตรวจยึด สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ประเภท กางเกงลายช้าง กว่า 30,000 ตัว  

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า โกดังสินค้าดังกล่าว มีการนำเข้าสินค้าที่น่าเชื่อว่าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยผิดกฎหมาย มาจำหน่ายให้กับประชาชน จึงได้ทำการขอหมายค้น ศาลอาญา ที่ ค.85/2567 ลงวันที่ ๑๔ มีนาคม 2567 เพื่อเข้าตรวจค้นและตรวจสินค้าโดยละเอียด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบ นายสุขุมฯ เป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าลักลอบนำเข้าหนีภาษีจากต่างประเทศจริง เป็นกางเกงลายช้าง กว่า 30,000 ตัว มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

ซึ่งกางเกงลายช้างเป็นการสร้างสรรค์ของคนไทย ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์และความสร้างสรรค์ของคนไทย อีกทั้งและยังไม่มีคนมาสามารถแสดงเอกสารการนำเข้าและการชำระภาษีศุลการกรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกตรวจค้นและยึดสินค้าดังกล่าวไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งแก่ผู้นำตรวจค้นว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้นำตรวจค้นเบื้องต้น นายสุขุมฯ ยอมรับว่าตนเป็นลูกจ้าง จึงแจ้งกับผู้นำตรวจค้นว่าการกระทำดังกล่าว หากไม่สามารถนำเอกสารการเสียภาษี จะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากรฯ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ