เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของน้องแคร์อีกครั้ง พบคนในครอบครัวกำลังคุยกัน โดยมีนางสาวนทีกานต์ กันทวงค์ พี่สะใภ้ บอกว่า มี จนท.ตร.จากกาญจนบุรี โทรมาบอกว่าน้องแคร์เดินทางข้ามไปประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ทราบวันไหนและเวลา จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวไปดูที่ห้องนอนของน้องแคร์ ที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน เป็นเตียงนอนไม่ใหญ่มากกางด้วยมุ้ง ก่อนที่น้องจะหายไป น้องจะนอนกับลูกสาวที่ห้องนี้

นางประหยัด จันทวิสิทธิ์ แม่ หลังทราบว่าลูกสาวข้ามไปประเทศมาเลเซีย ก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะไป แต่เมื่อปีที่แล้วลูกสาวไปทำพาสปอร์ตที่จังหวัดพิษณุโลก และบอกว่าจะไปทำงานที่เกาหลี แต่สุดท้ายไม่ได้ อยากไปถึงลูกสาวอยากให้กลับมาบ้าน พ่อแม่เป็นห่วง และบอกอย่าทำแบบนี้ จะไปไหนให้บอก จะได้ไม่ต้องห่วง เสียใจที่ลูกสาวทำแบบนี้ ทำให้ที่บ้านเป็นห่วง ถ้ากลับมาได้ให้กลับมาเลย และไม่อยากให้ไปไหนอีก หลังทราบว่าลูกสาวไปมาเลเซีย ได้จุดธูป 16 ดอก ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลูกสาวปลอดภัยและกลับมาบ้านเร็ว จากนั้นนำธูปปักลงพื้นที่ที่หน้าบ้าน

แม่ยังเล่าอีกว่า จริงๆแล้ว น้องแคร์ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของแม่ แต่เป็นลูกที่เขาให้มาเลี้ยง เป็นลูกของชาวบ้านบ้านทุ่งเทิง ต.อีปุ่ม อ.ด่านซ้าย เอามาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 3 เดือน เลี้ยงมาตลอด ส่งเสียเรียนหนังสือจบ มาถึงปัจจุบัน 26 ปีแล้ว ส่วนพ่อแม่แท้เป็นครอบครัวไม่มีอันจะกิน แม่พิการ ตอนลูกยังเล็กๆ ได้ 1 ขวบมาเยี่ยม แต่พ่อปัจจุบันไม่ให้มา กลัวลูกจะมีปมด้อย ส่วนลูกคงจะรู้ว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่ เพราะพี่ชายชอบเรียกน้องว่าไอ้ม้ง เพราะพ่อของลูกเป็นคนภูเขา แม่เป็นคนม้ง มาได้สามีเป็นคนไทยที่บ้านทุ่งเทิง เขาพิการเลี้ยงลูกไม่ได้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ณธีพัฒน์ จิรัฐวรโชติ ผกก.สภ.ด่านซ้าย เจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า หลังทางครอบครัวมาแจ้งความ ก็รีบดำเนินการตรวจเช็คและสืบหา และประสานไปยังหน่วยงานที่คาดว่าเกี่ยวข้อง จนได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วศรีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาช ว่าน้องแอร์ ได้เดินทางข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ที่ด่าน ตม.โกลก เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา 14.30 น. และยังไม่มีหลักฐานเดินทางกลับประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเลย รายงาน