เพิ่งจะรู้! หนุ่มติดแอร์มานาน มือไปโดนโหมด I Feel คืออะไร แต่เย็นสบาย แถมประหยัดไฟกว่าโหมดคูล ช่างแอร์เข้ามาตอบ

เพิ่งจะรู้! หนุ่มติดแอร์มานาน มือไปโดนโหมด I Feel คืออะไร แต่เย็นสบาย แถมประหยัดไฟกว่าโหมดคูล ช่างแอร์เข้ามาตอบ

เข้าสู่อากาศร้อนกันอย่างเต็มตัวแล้วสำหรับเมืองไทย แล้วก็คงไม่ต้องบอกว่าอากาศร้อนเมืองไทยนั้นร้อนแค่ไหน เพราะบางทีก็ 40+ องศาเซลเซียสเลยละ จึงทำให้หลายต่อหลายคน จำเป็นต้องอยู่ในห้องแอร์กันตลอด และเปิดแอร์แบบฉ่ำ ๆ โดยไม่กลัวบิลค่าไฟ ซึ่งล่าสุด ได้มีหนุ่มคนหนึ่งได้ไปค้นพบความลับบางอย่างของแอร์ เมื่อจู่ ๆ มือของเขาก็ไปโดนโหมด I Feel ทำให้เขารู้ว่า โหมดนี้มันเย็นฉ่ำสุด ๆ แถมยังประหยัดไฟกว่าด้วย

โดยเรื่องนี้มีที่มาจากหนุ่มคนหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์แชร์เคล็ดลับผ่านกลุ่มเฟซบุุ๊กกลุ่ม งานบ้านที่รัก บอกว่า ปกติเวลาเปิดแอร์ เขาจะเปิดโหมดคูลตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งมือไปโดนโหมด I Feel แล้วรู้สึกว่าแอร์ฉ่ำมาก อยากรู้ว่าใครใช้โหมดนี้บ้าง และประหยัดไฟจริงไหม

ทั้งนี้ ได้มีช่างแอร์มาร่วมคอนเฟิร์มว่า โหมด I Feel นั้น คือ โหมดออโต้ที่อยู่ในแอร์มิตซูบิชิ ซึ่งแอร์จะเปลี่ยนใช้เซ็นเซอร์ตรงรีโมต เป็นตัววัดอุณหภูมิโดยรอบ และส่งสัญญาณที่ชุดควบคุมในเครื่องปรับอากาศในการวิเคราะห์ว่า จะทำงานในโหมดไหน และแอร์จะวิเคราะห์การทำงานจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องความร้อนภายในห้อง จำนวนคนที่อยู่ในห้อง สภาพอากาศข้างนอก เพื่อปรับให้ภายในห้องตรงจุดที่รีโมตอยู่มีความเย็นมากที่สุด

ซึ่งการทำงานของแอร์ในโหมดนี้ จะเป็นการทำงานสลับกัน ระหว่างการทำงานวนในทุกโหมด หากพบว่าในห้องมีอุณหภูมิมากกว่าที่เราตั้งความเย็นเอาไว้ แอร์จะปรับเป็นโหมด Cool ทันที และเมื่ออุณหภูมิในห้องไปน้อยกว่าความเย็นที่เราตั้งไว้ แอร์จะส่งสัญญาณให้คอมเพรสเซอร์ทำงานในโหมด Dry หรือ Fan สลับการทำงานแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งการทำงานในโหมดนี้ จะทำให้อุณหภุมิในห้องและความชื้นในห้องสัมพันธ์กัน

ส่วนข้อดีของการทำงานในโหมดนี้ คือ จะไม่เปลืองไฟมากเกินไป เพราะทุกอย่างถูกคำนวณมาให้หมดแล้ว แต่จำเป็นต้องวางรีโมตไว้ใกล้ ๆ คนที่อยู่ในห้องนั้น คนที่นั่งห่างจากรีโมตอาจจะรู้สึกร้อน

ทั้งนี้ แอร์ส่วนใหญ่แต่ละเครื่อง จะแบ่งการทำงานเป็น 4 โหมดหลัก ๆ ดังนี้

1. โหมด Cool

ถือเป็นโหมดของแอร์ที่คนใช้งานมากที่สุด เพราะหากตั้งอุณหภูมิไว้ที่เท่าไร เครื่องก็จะปรับอากาศให้อุณหภูมิเท่านั้น ทำให้ความเย็นในห้องค่อย ๆ เย็นลงช้า ๆ เมื่อถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ แอร์จะตัดการทำงาน ซึ่งแอร์ในโหมดนี้จะรักษาอุณหภูมิในห้องได้คงที่ แต่จะกินไฟสูง หากเปิดไว้ในช่วงที่อากาศร้อนจัด แอร์จะทำงานหนักเพื่อพยายามรักษาอุณหภูมิไว้ตามเดิม ส่วนวิธีการเปิดโหมด Cool ให้ประหยัดไฟนั้น ให้เปิดแอร์ในโหมด Cool ก่อน แล้วเมื่อได้อุณหภูมิที่ต้องการ ให้ปรับไปที่โหมด Auto

2. โหมด Auto

โหมดนี้เป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด แอร์จะคำนวณค่าต่าง ๆ เองโดยที่เราไม่ต้องปรับใด ๆ ทั้งเรื่องอุณหภูมิในห้อง พัดลม คนที่อยู่ในห้อง สภาพอากาศภายนอก และปรับให้ได้ความเย็นมากที่สุด โหมดนี้จะไม่กินไฟมาก ไม่ยุ่งยาก กดใช้งานได้เลย แต่หากเปิดโหมดออโต้ตอนที่อยู่ในห้องคนเดียว ก็จะทำให้กินไฟได้เช่นกัน

3. โหมด Fan หรือ โหมดพัดลม

คือทำให้แอร์มีหน้าที่คล้ายพัดลม ไม่ว่าอุณหภูมิในห้องจะเท่าไรก็ไม่มีผล เพราะเป็นการเปิดพัดลมให้ลมผ่านออกมาเท่านั้นโดยไม่มีความเย็นและไม่มีการลดอุณหภูมิใด ๆ เหมาะกับการไล่กลิ่นอับชื้น กลิ่นอาหารในห้อง ลดความชื้นที่สะสมในห้อง และลดปัญหาแอร์เย็นช้า ซึ่งโหมดนี้เปิดได้ในช่วงที่อากาศเย็นสบาย แต่ถ้าอากาศร้อนแล้วเปิดโหมดนี้ จะยิ่งกินไฟหนักกว่าเดิม

4. โหมด Dry

โหมดนี้จะช่วยลดความชื้นในห้องได้อัตโนมัติ โดยการทำงานจะเป็นการดูดความชื้นในห้องเข้าแอร์และปล่อยออกทางท่อระบายน้ำทิ้ง เมื่อเปิดโหมดนี้จะไม่มีเลขอุณหภูมิใด ๆ เพระแอร์จะไม่ทำความเย็น และมีสัญลักษณ์หยดน้ำขึ้นเท่านั้น แอร์โหมดนี้จะกินไฟต่ำมาก แต่ไม่ทำความเย็นและทำให้ห้องอยู่ในอุณหภูมิปกติเท่านั้น และเราควรเปิดแอร์โหมดนี้สัปดาห์ละครั้ง หรือ 1 เดือน 2 ครั้ง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ