เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 9 มี.ค.2567 ที่วัดวังยายฉิม ต.หินตััง อ.เมือง จ.นครนายก นายกองโทอิศรา สุขแจ่มใส นายอำเภอเมืองนครนายก ร่วมขบวนแห่ผะเหวดเข้าเมือง พร้อมฟังเทศน์มหาชาติ เวสสันดรชาดก 13 กันฑ์ 1000 พระคาถา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหินตั้งร่วมแห่ขบวนผะเหวดเข้าเมืองจำนวนกว่า 200 คน โดยมาร่วมตัวกันที่ องค์การบริหารส่วนตำบลหินตั้ง เดินไปยังวัดวังยายฉิมระยะทางเกือบ 2 ก.ม.

โดยมีขบวนกลองยาวพร้อมนางรำแห่นำขบวน พร้อมตัวละครจากมหาเวสสันดรชาดก อาทิ เช่น พระเวสสันดร,ชูชก,กัญหา,ชาลี,นางมัทรี,นางผุสดีและพระเจ้ากรุงสญชัยโดยได้รับเกียรติจากนายกองโทอิศรา สุขแจ่มใส นายอำเภอเมืองนครนายกแต่งเป็นตัวละครนี้โดยขี่ม้าร่วมในขบวนแห่ด้วย ก่อนจะมุ่งหน้าเดินขบวนแห่ไปยังวัดวังยายฉิมและร่วมฟังเทศน์มหาชาติ เวสสันดรชาดก 13 กันฑ์ 1000 พระคาถา

บุญผะเหวด เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บุญมหาชาติ เป็นงานบุญที่พระสงฆ์ได้แสดงพระธรรมเทศนา เกี่ยวกับพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่กล่าว ถึงพระจริยาวัตรขององค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพระเวสสันดร หรือเรียกว่า มหาเวสสันดรชาดก มีความยาวถึง 13 กัณฑ์ การทำบุญผะเหวดจะมีขึ้นในเดือน4 ชาวบ้านจะกำหนดวันกันเอง โดยไม่ให้ตรงกันกับหมู่บ้านใกล้เคียง ก่อนเทศน์ 1 วัน

ชาวบ้านจะจัดพิธีรับผะเหวดเข้ามาสู่เมือง ในการจัดขบวนแห่จะมีดนตรีประกอบด้วยผ้าผะเหวดและคนร่วมขบวน เมื่อขบวนไปถึงบริเวณที่สมมติให้ผะเหวดอยู่ ก็จะเอาขันธ์ 5 (ในขันธ์ 5 ประกอบด้วยด้วยดอกไม้ ธูปเทียน และเงิน) ไปนิมนต์ พระภิกษุที่สมมติเป็นผะเหวดจะรับนิมนต์และแสดงธรรมเทศนาสอนพุทธบริษัทก่อนแล้ว จึงแห่ผะเหวดเข้าเมือง หลังจากนั้นพระภิกษุก็จะแสดงธรรมเทศนากัณฑ์สังกาศจนจบ ต่อมาตอนเช้ามืดชาวบ้านก็จะออกไปแห่ข้าวพันก้อน ฟังเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน และพระเวสสันดรชาดกจนครบ 13 กัณฑ์ โดยเทศน์ไปเรื่อยๆตลอดทั้งวันจนกว่าจะเทศน์ครบ 13 กัณฑ์ มีความเชื่อของคนอีสานโบราณว่า ถ้าผู้ใดได้ฟังเทศน์มหาชาติจบภายในวันเดียว เมื่อเสียชีวิตแล้วจะได้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นครนายก รายงาน