เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีแม่วัยรุ่น อายุ 19 ปี มีอาการป่วยจากโรค HIV ต้องออกไปรับจ้างหาเงินซื้อนมให้ลูกชายวัย 2 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคหอบกิน ซึ่งทั้งคู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบสภาพความเป็นอยู่ของหญิงสาวคนดังกล่าว อาศัยอยู่ที่บ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งเธอนั้นอาศัยอยู่กับน้องชาย และลูกชายวัย 2 ขวบ โดยบ้านพักแห่งนี้ เป็นบ้านที่พักของคุณตาของน้องสาวคนดังกล่าว

โดย น.ส.สุ อายุ 19 ปี เล่าว่า ตนเองติดเชื้อ HIV มาจากแม่ ตั้งแต่อยู่ในท้องกระทั่งคลอด และแต่งงานมีลูกชาย 1 คน ไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ถ้ามีเพื่อนบ้านจ้างให้ไปทำงานอะไรก็จะไป โดยจะให้ค่าจ้างครั้งละ 2-3 ร้อยบาทต่อวัน พอได้เงินมาซื้อนมให้ลูกกิน

ส่วนแม่ตนป่วยเสียชีวิตแล้วเมื่อหลายปีก่อน ขณะที่ตนนั้นแยกทางกับสามี ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หารับจ้างพอได้เงินมาซื้อนมให้ลูกกิน บางครั้งไม่มีงาน เพื่อนบ้านหรือคนรู้จักเวทนาก็ให้ตังค์ซื้อนมให้ลูกกินบ้าง ก่อนหน้านี้บ้านหลังนี้ตาอยู่ด้วย แต่ต่อมาตาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ป้าได้เอาไปอยู่ด้วย บ้านไม่ได้ห่างกันมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวประสานไปยัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.ปราจีนบุรี ทราบว่าเคสนี้ เคยลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเงินเบื้องต้นแล้ว แต่แม่เลี้ยงเดี่ยวรายนี้ได้หนีไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากกลัวว่าทาง พม. จะแยกแม่และลูกจากกัน เจ้าตัวคิดว่าจะไม่ได้อยู่กับลูก จึงพาลูกหนีไป และยังไม่ได้ให้การช่วยเหลือให้เข้าระบบ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อพูดคุยกับแม่ เพื่อที่จะเข้าสู่กระบวนการการช่วยเหลือทั้งแม่และลูกใน 1-2 วันนี้