รวบ เอ้ ริมปิง อดีตแอดมินเพจบริษัทดัง สวมรอยยักยอกเงินบริษัท หลังหลบหนี 3 ปี

รวบ เอ้ ริมปิง อดีตแอดมินเพจบริษัทดัง สวมรอยยักยอกเงินบริษัท หลังหลบหนี 3 ปี

สืบนครบาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางสาวเอ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท แล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ก่อนจะถูกบริษัทให้ออกจากงานและหนีหายตัวไปตั้งแต่ปี 2564

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ อายุ 37 ปี ภูมิลำเนา ตำบลริมปิง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ลักทรัพย์นายจ้าง

โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ท้าย หมู่ 10 ตำบลหนองไม้กอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ในชั้นจับกุม นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ ริมปิง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบหลักสูตรนานาชาติตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงระดับมหาวิทยาลัย สาขาการตลาดอินเตอร์ หลังจากเรียนจบเคยทำงานประสานงานนักศึกษาแลกเปลี่ยน ทำอยู่ประมาณเกือบปี ก่อนจะกลับไปช่วยบ้านทำธุรกิจค่าอาหารทะเลแห้ง ต่อมาประมาณปี 2564 ตนได้มีโอกาสไปทำงานเป็นแอดมินเพจของบริษัท นินจาโอม อลังการ ตระการตา จำกัด ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยทำหน้าที่คอยตอบคำถามลูกค้าที่ติดต่อสั่งซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ส่วนควบทุกชนิดจากเพจ แต่เนื่องจากขณะนั้นตนประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบกับมีปัญหากับอดีตสามี มีเหตุที่ต้องใช้เงินด่วน

อีกทั้งตนมีโอกาสที่ได้คุยกับลูกค้าเนื่องจากตนเป็นแอดมินเพจของบริษัท ซึ่งลูกค้ามีเหตุที่บริษัทต้องโอนเงินคืนให้แก่ลูกค้า พอถึงกำหนดที่บริษัทต้องโอนเงินคืน ตนได้สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท เพื่อนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ทั้งนี้ตนก่อเหตุไปหลายครั้งจำจำนวนครั้งไม่ได้ ก่อนที่จะถูกบริษัทจับผิดได้เนื่องจากฝ่ายบัญชีเห็นว่าบัญชีลูกค้าที่ขอรับเงินคืนเป็นเลขบัญชีซ้ำ ตนจึงถูกให้ออกจากงาน และได้หลบหนี ก่อนจะได้มาพบกับสามีใหม่จึงมาทำงานขายอาหารสดในพื้นที่ อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด

จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ เกรียงกิรติไกร มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี จำนวน คดี ประกอบด้วย 1) ปี 2558 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่ 2) ปี 2564 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ลักทรัพย์นายจ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ เกรียงกิรติไกร ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ