เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มี.ค.67 นายศรรัก มาล้ยทอง หัวหน้าประ สานงานภาคประชาชน จ.ปทุม ธานี พร้อมนายจิตรภณ เวชภิรมย์ อายุ 29ปี สามีของ น.ส. วิไลภรณ์ วังอินทร์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ธนพร ศรียันต์ อายุ 57 ปี สองผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบผู้บังคับบัญชาของลูกชายนางสุจิตร นาคสีสุก อายุ 54 ปี ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในจ.เพชรบูรณ์ เพื่อให้ช่วยประสานงานติดต่ลูกชายนางสุจิตร ช่วยเป็นตัวเชื่อมแม่ เพื่อให้มาเจรจาพูดคุยกัน หลังได้ทำสัญญาซื้อขายล๊อตเตอรี่กับ วันที่ 15 ก.พ.67 ที่บ้านเลขที่ 269 /303 หมู่บ้านทิพย์สุวรรณ ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยทียอดรวมสองรายเป็นเงิน 4,220,900 ยาท ในงวดวันที่ 1 มี.ค.77 และนางสุจิตร รับปากว่า จะนำล็อตเตอรี่มาให้ ในวันที่ 22-23 ก.พ.67 แต่ถึงเวลากลับไม่ได้รับล็อตเตอรี่ดังกล่าว ทั้งยังติดต่อนางสุจิตรไม่ได้ โดยทั้งคู่ได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ศุภลักษณ์ พรมวงษ์ พงส.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 28 ก.พ.67

โดยนายจิตรภณ สามีของน.ส. วิไลภรณ์ กล่าวว่า ตนเดินทางเป็นตัวแทนของภรรบา เพื่อสอบถามและติดตามเรื่องของนางสุจิตร จากลูกชายซึ่งเป็นทหาร ขณะนี้ภรรยาตนกำลังแย่ ต้องหามส่งโรงพยาบาลจากความเครียดเรื่องเงินที่สูญไป และมีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะต้องเสียลูกในครรภ์ของภรรยาไป ตนอยากให้ผู้บังค้บบัญชาลูกชายนางสุจิตร ช่วยติดตามเรื่องนี้ให้ อย่างเร่งด่วน ซึ่งวันนี้ก็ไม่พบตัวลูกชายนางสุจิตร ด้วย ซ้ำทางตนและภรรยาไม่มีเงินค่าใช้น่ายรักษาพยาบาล จนต้องนำภรรยากับมารักษาตามมีตามเกิดที่บ้าน

ด้านน.ส.ธนพร บอกว่า ตอนนี้ความเครียดมันถาโถมใส่อย่างหนัก เพราะเป็นเงินจำนวนมาก และเป็นเงินที่กู้หนี้นืมสินมาลงทุน อยากขอความอนุเคราะห์จากทางผู้บังคับบัญชาของลูกชายนางสุจิตร ให้ช่วยติดต่อประสานงานกับทหารคนดังกล่าว เพื่อให้มาพูดคุย เจรจาก้น โดยเฉพาะตัวนางสุจิต โดยขณะที่เปิดเผยก็มีเสียงสั่นเครือ ปริ่มจะร่ำไห้เป็นระยะๆ

ด้านนายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชน จ.ปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ได้นำผู้เสียหายมาพูดคุยกับลูกชายนางสุจิตร ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ที่จ.เพช่บูรณ์ แต่ทางต้นสังกัดแจ้งว่า เจ้าตัวลาพักร้อน จึงได้ติดต่อขอเข้าพบผ๔บังค้บบัญชาของลูก ชายนางสุจิตร พร้อมนำเอกสารต่างๆ เพื่อให้ตรวจสอบ พร้อมขอความอนุเคราะห์ประสานเรื่องดังกล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้นางสุจิตรออกมาจรจาพูดคุยกัน โดยมีหลักฐานชัดเจนจากผู้เสียหายทั้งสองคน ว่า ลูกชายนางสุจิตรเคยนำล็อตเตอรี่ไปส่งใป้ทั้งคู่ที่บ้านพักมาหลายครั้ง รวมถึงมีการนำมาโพสต์ขายทางเฟซบุคอีกด้วย ดังนั้นคงจะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนี้เห็นเรื่องล็อตเตอรี่ไม่ได้ หากเวลาล่วงเลยไป ไม่มีการติดต่อกลับมาพูดคุยกัน ก็คงจะต้องมีการแจ้งความเอาผิดลูกชายนางสุจิตร เพิ่มอีกคน แต่หากสามารถนำเงิน 4 ล้านกว่ามาคืนได้ครบ ผู้เสียหายทั้งสองรายก็พร้อมจะไปถอนแจ้งความ

โดยทางผู้บังคับบัญชาลูกชายนางสุจิตร ได้รับฟังและสอบถามเรื่องราวอย่างละเอียด และรีบปากจะประสานงานผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ติดต่อกลับไปในภายหลัง

เรียบเรียง สยามนิวส์