ตัวแทนสาว กว่า 30 รายถูกมิจฉาชีพหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมทิพย์ สูญเงินกว่า 1 ล้าน

ตัวแทนสาว กว่า 30 รายถูกมิจฉาชีพหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมทิพย์ สูญเงินกว่า 1 ล้าน

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.บี นามสมมุติ อายุ 39 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว น.ส.น้ำ นามสมมุติ อายุ 42 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว น.ส.หยา นามสมมุติ อายุ 29 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 39 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อให้ช่วยเหลือทางด้านคดีหลังถูกมิจฉาชีพหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมหรูราคาถูก หลงเชื่อโอนเงินซื้อไปกับไม่ได้กระเป๋าแบรนด์เนมหรู ได้แค่โฟมล้างหน้าราคาไม่ถึง 300 บาท สูญเงินร่วมกันกว่า 1 ล้านบาท แถมพอตามไปอายัดบัญชีกลับถูกขู่ว่าทำให้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดีและยอมไม่คืนเงิน อ้างมีแฟนเป็นนายตำรวจ จึงร่วมตัวกันเดินทางมาขอให้ทนายช่วยเหลือในเรื่องคดีความ

น.ส.บี นามสมมุติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 ตนหาซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Goyard ราคาจริงประมาณ 80,000 บาท จึงได้หาข้อมูลทางโซเชียล ก็พบข้อความพร้อมรูปภาพกระเป๋าแบรนด์เนมหรูยี่ห้อต่างๆ ของร้านที่ใช้ชื่อว่า usedbyminnie ซึ่งเป็นผู้หญิงแต่งตัวดี มีฐานะ ประกาศขายกระเป๋าอยู่จึงได้ติดต่อไปสอบถามราคากระเป๋าที่ตนอยากได้ ซึ่งทางหญิงคนดังกล่าวก็บอกว่าราคา 38,000 บาท แต่เป็นกระเป๋ามือสองสภาพดีเหมือนใหม่ โดยก่อนซื้อตนได้ให้หญิงคนดังกล่าวถ่ายรูปบัตรประชาชนคู่กับกระเป๋าเขาก็ถ่ายรูปส่งมาให้ดู จึงหลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อไป หลังโอนเงินไปแล้วตนก็เห็นข้อความของคนที่สั่งซื้อไปก่อนหน้าว่าร้านนี้โกงไม่ส่งสินค้าเป็นมิจฉาชีพ จึงได้รีบไปอายัดเงินที่โอนไปให้หญิงคนดังกล่าวไว้

ต่อมาทางหญิงคนดังกล่าวได้โทรมาต่อว่าข่มขู่ตำหนิตนว่าให้รีบไปถอนอายัดเงินในบัญชีธนาคารออก ไม่งั่นเตรียมรับหมายศาลได้เลยที่ทำให้เขาเบิกถอนเงินทำธุรกิจไม่ได้ ตนจึงบอกไปว่าให้โอนเงินคืนมาก่อนแล้วจะไปถอนอายัดให้ แต่เขากับตอบมาว่างั่นอย่าหวังจะได้เงินคืนเลย หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนจึงได้เขาไปสอบถามกับผู้เสียหายรายอื่นที่โดนหลอกไปก่อนหน้านี้ก็พบว่ามีผู้เสียหายกว่า 30 รายและน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้เป็น 100 คนทุกวันนี้หน้าเฟสเข้าก็ยังเปิดหลอกขายคนอื่นอยู่ตามปรกติ นอกจากนี้ตนยังไปตามบัญชีปลายทางที่โอนเงินไปพบว่าเป็นบัญชีของวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งก็ถูกมิจฉาชีพหลอกใช้บัญชี โดยอ้างว่าเป็นงานพิเศษหารายได้เสริม ไม่ผิดกฏหมาย ได้วันละ 1000-2000 บาท แต่ต้องเปิดบัญชีให้เขา ซึ่งน้องเจ้าของบัญชีหลงเชื่อตอนนี้ถูกแจ้งความดำเนินจากผู้เสียหายคนอื่นอีกหลายรายร่วมกว่าเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท มิจฉาชีพกลุ่มนี้ฉลาดมากหลอกตนยังไม่พอยังคนที่อยากหางานทำมาเปิดบัญชีม้าให้อีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวมาดำเนินคดีจะได้ไม่ไปหลอกลวงสร้างความเสียหายกับใครได้อีก

ด้านน.ส.น้ำ กล่าวว่า ตนก็ถูกหลอกแบบเดียวกัน เพราะความอยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมไว้ใช้ จึงโอนเงินสั่งซื้อไป 32,000 บาทแต่ของที่มาส่งกับกลายเป็นครีมล้างหน้าราคาไม่ถึง 300 บาท มันเจ็บใจ เงินก็เสียความรู้สึกก็เสีย พอไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องก็เงียบหาย จึงร่วมตัวกันเดินทางมาขอให้ทนายช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้มิจฉาชีพกลุ่มนี้ไปหลอกใครได้อีก ทุกวันนี้เขาก็ยังโพสต์ขายของลอกคนอื่นอยู่เหมือนเดิม

ด้านน.ส.เอ กล่าวว่า ตนเป็นคนระวังเรื่องการซื้อขายของแบบนี้มาก ก่อนจะซื้อได้สอบถามรายละเอียดกระเป๋ากับมิจฉาชีพคนนี้ แต่กับเจอเขาตอบสวนกลับมาว่า ถ้าไม่มั่นใจไม่ต้องซื้อผ่านไปเลย แบบเขาไม่ง้อลูกค้าเราเลยตีความไปว่าคนนี้และคือแม่ค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมตัวจริง ต้องมีจริตหยิ่งๆ ไม่ง้อลูกค้าแบบนี้เลยหลงเชื่อโอนเงินซื้อกระเป๋าไป 37,500 บาท สุดท้ายก็เหมือนผู้เสียหายคนอื่นๆ ขนาดโฟมล้างหน้าราคาไม่กี่บาทมันยังไม่ส่งมาปลอบใจตนเลย

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่ากรณีนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก เข้าฐานความผิด ตามพรบ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จและฉ้อโกงประชาชน มิจฉาชีพกลุ่มนี้ค่อนข้างเจ้าเลห์รู้มาก เพราะมีการส่งของไปให้กับลูกค้าบางรายแต่ของที่ควรจะได้รับเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมกับกลายเป็นโฟมล้างหน้าแทนเพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย

นอกจากนี้ที่ผู้เสียไปตามบัญชีม้าจนเจอแล้วพบว่าเขาก็ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกให้ทำงานพิเศษแต่ต้องเปิดบัญชีให้กับมิจฉาชีพนั้น ตนเคยฝากเตือนไปหลายครั้งแล้วว่าจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ อย่าได้ให้ใครเอาบัญชีธนาคารเราไปใช้โดยเด็ดขาดมันผิดกฎหมาย

ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ