ภรรยาช้ำใจหนัก สามีตำรวจคบชู้เด็ก นร.วัย 17 แถมยังตั้งท้อง ขอรับเป็นเมียอีกคน

ภรรยาช้ำใจหนัก สามีตำรวจคบชู้เด็ก นร.วัย 17 แถมยังตั้งท้อง ขอรับเป็นเมียอีกคน

เรื่องนี้มีที่มาจาก เพจเฟซบุ๊ก เป็นหนึ่ง ได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวของภรรยาตำรวจนายหนึ่ง ชื่อ นางเอ (นามสมมติ) ได้เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ หลัง ร.ต.ต. ที่เป็นสามีอยู่กินกันมานานกล่าว 20 ปี ไปมีสัมพันธ์กับเด็กสาว โดย น.ส.เอ เริ่มเล่าว่า เมื่อ พ.ศ.2562 มีเด็กหญิงอายุ 14 ปี เข้ามาซื้อไก่ชนที่บ้าน และเข้ามาตีสนิทกับตนเอง พร้อมขอเบอร์โทรสามีเพื่อคุยเรื่องไก่ชน ตอนนั้นตนเองไม่ได้รู้สึกผิดสังเกต เพราะคิดว่าเหมือนลูกหลานที่ชอบไก่ชน

พอเข้าสู่ช่วงปลายปีพ.ศ. 2564 น.ส.เอ จับได้ว่า สามีคุยกับเด็กหญิงเชิงชู้สาว จึงได้ตักเตือนทั้งคู่ และทางครอบครัวของเด็กหญิงก็บอกว่าจะเอาเรื่อง ทำให้ทั้งคู่เงียบหายไปพักหนึ่ง จนกระทั่งเด็กหญิง ได้โพสต์ข้อความชวนสงสัย น.ส.เอ จึงเช็กโทรศัพท์ของสามีที่เป็นตำรวจ พบว่า ที่ผ่านมาสามีไม่เคยเลิกกับเด็กหญิงคนนี้เลย

และนอกจากนี้ เด็กหญิงยังส่งภาพมาเย้ยหยัน จนทำให้ตนเองกับสามีมีปากเสียงกัน ถึงขั้นที่ว่าสามีลงไม้ลงมือกับตนเอง จนเครียด นอนไม่หลับต้องพบจิตแพทย์ และพยายามจะคิดสั้นจบชีวิตตนเองถึง 2 ครั้ง เพราะความอับอายและหาทางออกไม่ได้

น.ส.เอ ภรรยานายตำรวจ ยังบอกอีกว่า สุดท้ายตนเองตัดสินใจร้องเรียนผู้บังคับบัญชาสามี แต่ผลที่ได้รับคือ คำขู่จากสามี และคำด่าทอ ใช้กำลังความรุนแรง จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ตลอด และตนเองไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ต้องไปนอนบ้านญาติ นอนโรงแรมบ้าง กระทั่ง เมื่อปลายปี พ.ศ. 2566 เด็กหญิงอายุได้ 17 ปี ก็เกิดตั้งครรภ์ ซึ่งสามีบอกว่าเป็นลูกตนเองและจะรับเด็กหญิงไว้เป็นภรรยาอีกคน ส่วนฝ่ายหญิงชู้ ก็มาท้าทายให้ไฟฟ้องตำรวจ ฟ้องศาล

อย่างไรก็ตาม น.ส.เอ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เคยไปร้องเรียนที่โรงเรียนของเด็กหญิง แต่ทางโรงเรียนก็ได้แค่ตักเตือน แต่ที่สิ่งเลวร้ายที่สุด คือ ได้ไปคุยกับครอบครัวเด็กที่เป็นชู้กับสามีตนเอง แต่ทางครอบครัวตอบกลับว่า ทำยังไงได้ก็คนมันรักกันก็ต้องให้เขาอยู่ด้วยกัน

ทางด้าน น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง ได้สอบถามไปยัง ผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจนายนี้ได้รับการชี้แจงว่า ที่ผ่านทราบว่า มีการเรียกมาตกลงพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาคนเก่า แต่ยังไม่ยอมเลิกรา ปัจจุบัน จึงได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนทางวินัยไปแล้ว

จนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา หลังตนเองเข้ามารับตำแหน่ง โดยหากพบว่า มีความผิดจะดำเนินการจนถึงที่สุด ซึ่งต้องไปดูรายละเอียดว่า เข้าข่ายความผิดใดบ้าง ส่วนความผิดทางอาญาเกี่ยวกับคดีพรากผู้เยาว์ จะต้องให้ทางฝ่ายภรรยาของนายตำรวจคนดังกล่าวเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ