ไผลูกชายเจ้า ข่อยบ่รู้จัก พ่อแม่เปิดใจน้ำตาคลอ ดีใจแทบช็อก พบลูกชายที่หายไปกำลังคุ้ยขยะ เสื้อผ้าขาดวิ่น จำใครไม่ได้

ไผลูกชายเจ้า ข่อยบ่รู้จัก พ่อแม่เปิดใจน้ำตาคลอ ดีใจแทบช็อก พบลูกชายที่หายไปกำลังคุ้ยขยะ เสื้อผ้าขาดวิ่น จำใครไม่ได้

พ่อแม่ชาวอำเภอบ้านดุง ได้เจอลูกชายที่หายตัวไปเป็นเวลา 5 เดือน ทั้งๆที่ผ่านมาติดตามทุกช่องทาง ทั้งสื่อโซเซี่ยล ที่ช่วยกระจายข่าว ผู้นำหมู่บ้านได้ช่วยกันกระจายข่าวการหายตัวไป ของลูกชาย ล่าสุด ไปพบในตัวจังหวัดอุดรธานี ในขณะที่กำลังคุ้ยขยะในถังขยะ สภาพเนื้อตัวมอมแมม ตัวดำ สกปรก กางเกงขาด ไม่สวมรองเท้า แม่เห็นครั้งแรก ถึงกับร้องไห้โฮ สภาพลูกสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ลูกจำพ่อแม่ไม่ได้ แต่พ่อแม่จำลูกได้ แม่เรียกชื่อลูก ลูกหันมา จากนั้น ก็บอกไม่ใช่ลูก

วันที่ 3 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านโนนศรีทอง ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อพบ 2 สามีภรรยา ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายธนิต สุคำภา อายุ 42 ปี และ น.ส.สุภาวรรณ วงวิพา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ 7 ชาวบ้านโนนศรีทอง ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เนื่องจากทราบว่า สองสามีภรรยา ขี่รถจยย.มาจาก อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เข้ามาในตัวเมือง ระยะทางกว่า 80 กม.เพื่อตามหาลูกชาย ชื่อ นายโชคชัย สุคำภา หรือหนึ่ง อายุ 23 ปี ที่หายออกจากบ้านกว่า 5 เดือน หลังจากมีเพื่อนบ้านแจ้งว่าพบ นายหนึ่ง เป็นคนเร่ร่อนในตัวเมือง จ.อุดรธานี

โดยไปเจอลูกชายกำลังคุ้ยถังขยะอยู่แถววัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พอทั้งคู่เดินเข้าไปหา แม่ร้องเรียกชื่อลูก หนึ่ง ลูกชายหันกลับมามอง แล้วเบือนหน้าหนี จากนั้น ได้ตอบกลับว่า ไผเป็นลูกชาย เจ้า ข้อย บ่รู้จัก แม่ถึงกับปล่อยโฮ ด้วยความสงสรที่เห็นสภาพลูก แบบนั้น พ่อเข้าไปจับตัวเพื่อจะพากลับบ้าน ลูกชายแสดงท่าฮึดฮัด ท่ามกลางสายตาชาวบ้าน ที่อาจจะมอง ว่าผมอาจจะรังแก คนเร่ร่อน ผมจึงบอกว่าผมเป็นพ่อเขา ลูกชายคุณ ผมไม่รู้จัก และบอกนักข่าวว่า คุณอย่าเป็นบ้าตามเขา มาถามผมว่าผมเป็นลูก ผมจะรู้จักหรือเปล่า ดีแล้วที่เขาไม่เรียกคุณว่าลูกด้วย ขณะที่แม่เรียกลูกชายว่า น้องหนึ่ง มาๆ ลูก กลับบ้านเรา แต่ นายหนึ่ง ก็ไม่ยอมกลับ จึงปล่อยลูกชายเดินไป

ซึ่งนายธนิต ได้สอบถามชาวบ้านว่า เคยเห็นลูกชาย(คนนี้)ของตนหรือไม่ ชาวบ้านบอกว่า เคยเห็น เขาไปอาศัยหลับนอนใต้โกศกระดูกพิศนรินทร์ใหญ่ ในวัดมัชฉิมวาส เขาไม่เคยก่อความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทใดๆให้เดือดร้อน พระในวัด จึงสงสารให้อาศัยหลับนอน อยู่ในวัดเรื่อยมา จนล่วงมาได้ 5 เดือน จากนั้น ผู้เป็นพ่อจึงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยจับตัวลูกชาย เพื่อจะเอากลับบ้านไปรักษาที่อำเภอบ้านดุง แต่ได้รับคำแนะนำว่า ให้แจ้งตำรวจ สภ.เมืองมาช่วยเหลือเนื่องจากเขาอยู่ในภาวะไม่ปกติ กลัวจะถูกทำร้าย ซึ่ง ในเวลาต่อมา ตำรวจเดินทางมาทำการช่วยเหลือควบคุมตัวไป ทำการรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง โดยมี นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดทเอารถไปรับกลับมาทำหารรักษาที่ รพ.

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดย น.ส. พิศนรินทร์ ศรีสงคราม ปอ.ได้มอบหมายให้ นางสุพรรณิการ์ โคดา จนท.นักพัฒนาสังคมอุดรธานี ได้เดินทางเข้าไปสอบถามข้อมูล และรวบรวมเอกสารในการช่วยเหลือ จากนายธนิตและนางสุภาวรรณ ที่บ้านโดยแจ้งว่าจะมีเงินช่วยเหลือ จำนวนหนึ่ง( 3 พันบาท) จนท.จะโอนเข้าบัญชีของแม่ ตอนช่วง สิ้นเดือนเมษายน

ซึ่ง นายธนิต กล่าวว่า ผมงงมาก ในระยะเวลา 5 เดือนลูกชายผมเร่ร่อน ได้มีการซื้อยาบ้าในสภาพนี้ เบลอ สกปรก เนื้อตัวมอมแมม กางเกงขาดวิ่น ดูแล้วเหมือนคนไม่สวมกางเกง เลอะเลือนแบบนี้ ยังมีคนขายยาบ้าให้อีกอยู่หรือ คนขายเขาคิดยังไงอยู่ ผมได้ลูกชายกลับมาบ้านผมดีใจมาก ตอนแรกคิดว่า ลูกถูก ตำรวจจับไป คงถูกคุมขังในที่ใหนสักแห่ง

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงอาชีพของนางสุภาวรรณ และสามี ได้รับคำตอบว่า ตนมีอาชีพไปขายไอศกรีม ตัด ที่นายจ้างเขาทำส่ง คิดเป็นร้อยละ ไปเร่ขายตามหมู่บ้านจนกว่าไอศกรีมจะหมด จึงะเข้าบ้าน ส่วนสามี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีความชำนาญในการก่อสร้าง แล้วแต่จะมีคนว่าจ้างให้ไปทำอะไร ที่ดินที่ปลูกบ้านนี้ ซื้อจากเจ้าของที่นามา 1 งาน (50 ตารางวา) พอได้ปลูกบ้านให้ลูกๆได้อยู่อาศัย มีลูกชาย 3 คน ๆโต คือนายหนึ่ง และมีน้องอีก 2 คน กำลังเรียนหนังสือ ซึ่งจากคำบอกเล่าของ สอบต.บ้านชัย ชื่อนายลำดวน โสภาดี ได้ทราบว่า เด็กชาย 2 คนนี้ มีผลการเรียนที่ดีมาก ได้รับคำชื่นชม ตลอด

นางสุภาวรรณ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ อยากให้ลูกชาย ได้รับการบำบัดรักษาให้หาย เพราะลูกชายของตน เมื่อก่อนเขาเป็นคนดีมาก เชื่อฟัง พ่อแม่ แถมเป็นคนขี้อาย พูดน้อย ขอความช่วยเหลือหน่วยงานใหนที่พอช่วยได้ ช่วยเหลือตนด้วย ตนอยู่ในสภาพแบบนี้ มีชีวิตอยู่แบบนี้ และอยากได้ลูกชายกลับคืนมาเป็นคนดีของครอบครัว

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด อุดรธานี รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ