หนุ่มขับรถเก๋งมากับครอบครัว เข้าจุดพักมอเตอร์เวย์ เจอรถย้อนศรตัดหน้า หักหลบชนป้าย พ่อ-ลูกดับคาซาก

หนุ่มขับรถเก๋งมากับครอบครัว เข้าจุดพักมอเตอร์เวย์ เจอรถย้อนศรตัดหน้า หักหลบชนป้าย พ่อ-ลูกดับคาซาก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 2567 ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพการจราจรที่ติดขัด และรถชะลอตัวเป็นจำนวนมากบนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้าพัทยา หมู่ 3 ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งภายในภาพจะมองเห็นอุบัติเหตุรถยต์ชนกับป้ายจุดพักรถ ที่มีเจ้าหน้าที่กำลังให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยมูนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อ บีเอ็มดับบลิว สีขาว ทะเบียน 1 กน2666 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ชนกับต่อม่อของป้ายบอกทางจุดพักรถ บนถนนมอเตอร์เวย์ ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 2 รายชื่อ นายลี ชิน ค็อง อายุ 32 ปี ชาวมาเลเซีย คนขับรถและเด็กชายอายุประมาณ 3 เดือน สภาพศีรษะแตกแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตคาซากรถ 

เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบหญิงหนึ่งรายอายุประมาณ 30 ปี เป็นแม่ของเด็ก ถูกคอนโซนรถบีบอัดอยู่ในรถ กู้ภัยเร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ช่วยเหลือพร้อมกับเด็กหญิงอายุประมาณ 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ ขาฉีกขาดเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส กู้ภัยจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรีทันที

จากการสอบถาม นายกิตติพันธ์ ระพีกุล เจ้าหน้าที่กู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ เล่าว่า จากการสอบถามพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์บอกว่า รถคันดังกล่าวขับขี่เข้ามาตามปกติ เพื่อจะเข้ามาจุดพักรถ แต่ในจังหวะเดียวกันมีรถของชาวบ้านที่วิ่งย้อนศรออกไป แล้วทำให้รถเก๋งของครอบครัวนี้หักหลบกะทันหัน จึงทำให้รถเสียหลักไปชนกับป้ายบอกทาง ส่วนรถคันที่ย้อนศร ก็ไม่ได้จอดดูและรีบขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

ซึ่งชาวบ้านอาจจะไม่รู้ว่าจุดพักรถตรงนี้เข้าทางและไปออกอีกทาง ไม่สามารถย้อนศรได้ และก็ย้อนศรอยู่แบบนี้เป็นประจำ ทำให้เกิดเหตุอยู่บ่อยครั้ง มีเสียชีวิตทุกปี ๆ ละประมาณ 3-4 ราย ตนก็อยากฝากเตือนภัยว่า จุดพักรถทุกที่บนมอเตอร์เวย์ เค้าจะทำทางเข้าและทางออก ขับรถด้วยความระมัดระวัง ทำตามกฎจราจรจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามรถคันที่ย้อนศร จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ และจะได้ติดตามตรวจเจ้าของรถคันดังกล่าวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ