ครูสาว เผยนาทีหนีอลหม่าน ห้างเทอร์มินอล ช็อกเจอครั้งที่ 2 ภาพเหตุการณ์ 4 ปีก่อนยังติดตา

ครูสาว เผยนาทีหนีอลหม่าน ห้างเทอร์มินอล ช็อกเจอครั้งที่ 2 ภาพเหตุการณ์ 4 ปีก่อนยังติดตา

จากกรณีเมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 2 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา และกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกัน ที่บริเวณลานหน้าโรงแรมเซนเตอร์พอยต์ ภายในศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และภายในศูนย์การค้ามีประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่ได้ยินเสียงปืนต่างแตกตื่นส่งเสียงหนีเอาชีวิตรอดกันอลหม่าน บ้างก็วิ่งหนีหลบตามร้านค้าและตามซอกมุมต่าง ๆ ของศูนย์การค้าทั้ง 4 ชั้น

เพราะเข้าใจว่าเกิดเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าแห่งนี้เหมือน เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 หรือ 4 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้น จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงประชาชนภายในศูนย์การค้าฯ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 30 รายและบาดเจ็บอีก 58 ราย

เมื่อตำรวจ สภ.และหน่วยกู้ภัยเมตตาไปถึง พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือนายณัฐดนัย เหล็กกล้า อายุ 30 ปี ซึ่งทำงานเป็น รปภ.ของโรงแรมฯ ดังกล่าว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ที่บริเวณใต้ริมฝีปาก 5 นัด และหัวไหล่ขวา 1 นัด หน่วยกู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ป.แพทย์ 2 นครราชสีมา

ด้านครูผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เล่าว่า ขณะที่ตนอยู่ในศูนย์การค้าได้เห็นคนวิ่งหนีกันวุ่นวายและส่งเสียงกรี๊ดกันสนั่นอย่างโกลาหล บางคนตะโกนว่ามีเหตุกราดยิงเกิดขึ้น ตนเองจึงได้พาเด็ก ๆ และญาติ หลบหมอบอยู่ภายในห้องเรียนชั้นสองตามยุทธวิธีที่เคยฝึกซ้อมกันมา ขณะเกิดเหตุการณ์ก็ตกใจมาก แต่พยายามตั้งสติเพื่อปกป้องเด็ก ๆ และญาติให้ปลอดภัยไว้ก่อน

เมื่อเหตุการณ์สงบจึงได้ออกมาดูสถานการณ์ จากนั้น เห็นว่าปลอดภัยดีแล้วจึงเดินทางกลับบ้าน และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ตนประสบเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ที่เทอมินอล 21 โคราช ซึ่งครั้งนั้นตนก็ติดอยู่ภายในห้างนานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งภาพเหตุการณ์เมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมายังอยู่ในความทรงจำ จนมาวันนี้ ก็เห็นผู้คนแตกตื่นวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอีก ตนรู้สึกตกใจมาก ขณะเล่าก็ยังใจสั่นไม่หาย ยังเคราะห์ดีที่ไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้นและไม่มีการสูญเสีย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ