ชาวบ้านเอือม แก๊งค์โปรยบัตรเงินกู้เกลื่อนถนน ป้าวอนช่วยเหลือกู้เงินหมื่นส่งดอกวันละ 200 ต้นอยู่ครบ ต้องประกาศขายบ้านใช้หนี้

ชาวบ้านเอือม แก๊งค์โปรยบัตรเงินกู้เกลื่อนถนน ป้าวอนช่วยเหลือกู้เงินหมื่นส่งดอกวันละ 200 ต้นอยู่ครบ ต้องประกาศขายบ้านใช้หนี้

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ว่าในพื้นที่มีกลุ่มคนขับขี่รถ จยย.มาโปรยบัตรเงินกู้ตามหน้าบ้านประชาชนเต็มไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยสูง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนและเป็นขยะต้องเก็บกวาดทุกวัน วันละหลายรอบ จึงประสาน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงษ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่เก็บหลักฐาน

จากการลงพื้นที่ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตรงข้ามวัดท่าบางสีทอง ต.วัดชลอ พบบัตรเงินกู้ที่พื้นหน้าบ้านประชาชนจำนวนมาก โดยที่บัตรเขียนว่า เก้าล้านเงินทุน จริงใจโปร่งใส่ ตรงไปตรงมา แก้ปัญหาทางการเงิน อนุมัติไว ให้วงเงินสูง พร้อมให้เบอร์มือถือติดต่อ, ธนากร8 เงินด่วน เงินทุน อนุมัติง่าย ได้วงเงินสูง พร้อมลงคิวอาร์โค้ตและเบอร์มือถือติดต่อ และ เฮง เฮง เฮง 10 เงินทุน จริงใจ โปร่งใส ตรงไปตรงมา พร้อมให้เบอร์มือถือติดต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บบัตรเงินกู้ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานได้ประมาณ 10 กว่าใบ

นอกจากนี้ยังได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางรัตติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี แม่ค้าขายข้าวขาหมู ว่า ส่วนใหญ่คนที่มาโปรยบัตรเงินกู้ เขาขับผ่านก็โยนไปตามหน้าบ้านส่วนใหญ่จะมาเช้ามืด ตื่นมาก็เจอเต็มหน้าบ้าน ก็ต้องมาตามกวาดทิ้ง มาโปรยกันหลายเจ้า แบ่งเป็นทีม 1 ทีม 2 ทีม 3 มาทุกวัน ส่วนตนก็ได้กู้เงินนอกระบบมาตั้งแต่เดือนเม.ย.66 จำนวน 10,000 บาท ส่งดอกลอยวันละ 200 บาท จนส่งไม่ไหว จึงได้คุยกับเจ้าหนี้ขอลดดอกลงเหลือวันละ 100 บาท ส่งมาจนทุกวันนี้

ตนได้ไปลงทะเบียนกับทางอำเภอบางกรวยแล้วตั้งแต่เริ่มเปิดลงทะเบียนไกล่เกลี่ย จนตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางอำเภอหรือมีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้ครอบครัวอาศัยกันอยู่ 3 คน คือ พี่สาวอายุ 72 ปี ป่วยเป็นโรค และสามีของตน อายุ 68 ปี เส้นเลือดสมองตีบ ตนเองมีอาชีพค้าขายเพื่อช่วยเกลือตนเองแต่เนื่องจากเงียบเหงาขายได้บ้างไม่ได้บาง และต้องใช้เงินในการหมุนเวียนในบ้าน

ส่วนลูกหลานก็ทำงานช่วยได้บ้างเล็กน้อย พอเงินในบ้านไม่พอตนก็ต้องไปกู้นอกระบบ เจ้าหนี้ก็ต้องการเงินต้นคืนตอนนี้เงินก็ยังอยู่เต็ม 10,000 บาท ที่ส่งไปไม่ได้ลดลงเลย ก่อนหน้านี้ตนเคยไปกู้ธนาคารเมื่อเดือนธ.ค.แต่ไม่ผ่าน ตนจึงต้องประกาศขายตึกที่ตนอาศัยอยู่เะนาะตึกนี้ก็ติดจำนองธนาคารอยู่ ขายไปจะได้เหลือหนี้น้อยลง พอขายตึกครอบครัวตนก็จะย้ายไปอยู่กับญาติ ตนมองว่าการแก้ไขหนี้นอกระบบของรัฐบาลไม่ได้ผล เพราะลูกหนี้ไม่สามารถกู้เข้าระบบได้ เขาไม่รับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมบัตรทั้งหมดไปตรวจสอบ ส่วนลูกหนี้ที่มีปัญหาอยู่ระหว่างประสานกับทางอำเภอบางกรวย เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าว

สยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ