กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นาย ทินกรฯ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดชุมพร โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ” และจากการตรวจสอบพบมีหมายจับเพิ่มอีกจำนวน 2 หมาย คือ หมายศาลแขวงดอนเมือง ที่ จ49/2566 ลง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” และศาลอาญามีนบุรี ที่ จ 211/2566 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2566 อีก โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” รวม 3 หมาย

สถานที่จับกุม สถานีรถไฟละแม อ.ละแม จ.ชุมพร พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ว่า มีผู้ชายลูกครึ่งไทย-จีน ทักเข้ามาทางช่องทางออนไลน์ เพื่อตีสนิท และชวนลงทุนเทรดคริปโต+สอนเทรด รวมทั้งให้หาเงินมาเทรด โดยโอนเงินให้บัญชีของนายทินกร ฯลฯ ในช่วงแรกที่เทรดก็ได้กำไรและถอนกำไรออกได้ตามปกติ แต่ช่วงหลังเริ่มมีการบอกให้จ่ายภาษี ให้ถ่ายบัตรประชาชนให้ และไม่สามารถถอนเงินออกได้ ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านาย ทินกร ฯ ได้เดินทางมาเที่ยวบ้านน้องสาวของแฟน เดินทางมาโดยรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามจับกุมได้ในที่สุด จึงได้นำส่ง สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวสยามนิวส์ นครบาล