เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง.สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ภายในบ้าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา รีบรุดไปทำการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์โฮมชั้นเดียว ตรวจสอบ บ้านเลขที่ดังกล่าว พบร่าง นายสายันต์ พิมพ์พาพ์ อายุ 74 ปี เจ้าของบ้าน นอนหมดสติจมกองเลือด อยู่ภายในห้องนอน พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับด้านขวา กระสุนทะลุไปตุงอยู่บริเวณหน้าผากเหนือคิ้วด้านซ้าย นอนหมดสติจมกองเลือด หายใจโรยริน ทีมกู้ภัยจึงรีบปฐมพยาบาล

ก่อนจะเคลื่อนย้ายนำตัวส่ง โรงพยาบาลเมืองพัทยา ตำรวจเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก และมีกระสุนขนาด .38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ 5 นัด โดยกระสุนถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด ส่วนกระสุนทั้งหมดที่พบ เป็นกระสุนลูกซ้อม ชนิดหัวตะกั่ว ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นางสาวปอย นามสมมุติ อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม เล่าว่า ขณะเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงปืน รู้อีกทีคือมีรถพยาบาลเข้ามารับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปส่งโรงพยาบาล โดยบ้านหลังดังกล่าวมีคนพักอาศัยอยู่ตามลำพัง 2 ตายาย โดยคุณตา มีธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและบ้านเช่าหลายแห่ง ช่วงหลังๆทราบข่าวว่า คุณตาป่วยหลายโรค และ เป็นคนหลงๆลืมๆ ไม่ค่อยออกมาสุงสิงกับใคร จนกระทั่งมาก่อเหตุยิงตัวเองดังกล่าว

ขณะที่ นายพงษ์ นามสมมุติ เป็นคนขับรถและเป็นพ่อบ้าน ของผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้การกับตำรวจว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และ รับจำนองบ้าน-ที่ดิน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ป่วยหลายโรค โดยเฉพาะ โรคอัลไซเมอร์และไบโพลาร์ และ บ่นคิดจะฆ่าตัวตายมาหลายครั้ง แต่ปี 2553 จากนั้นทุกคนในบ้านก็พยามดูแลประคับประคองมาตลอด จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนก่อน คนเจ็บแอบไปทำรูปตั้งหน้าศพ ที่ร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ทำให้ลูกบุญธรรม และกลุ่มญาติๆ พยายามเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด

ก่อนที่จะมาแอบมาก่อเหตุดังกล่าว ร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง.สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในทางคดี ได้ทำการเก็บอาวุธปืนนำไปตรวจสอบ รวมถึงสอบปากคำพยานเป็นบุคคลใกล้ชิดกับคนเจ็บ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนเจ็บก่อเหตุใช้อาวุธปืนปืนยิงตัวเอง เนื่องจาก เกิดอาการเครียด เพราะป่วยเป็นโรครุมเร้าหลายโรค แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะทำการสอบปากคำพยานอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปท้ายเหตุที่แท้จริงต่อไป