
หนุ่มเจอภาพบาดตาบาดใจ เมียแอบกุ๊กกิ๊กกับลูกพี่ สุดเจ็บปวด ทรมานบ่มความแค้นไว้กว่า 6 เดือน สุดท้ายทนไม่ไหว
เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 26 ก.พ. 2567 พ.ต.ต.พายัพ รุ่งหัวไผ่ สารวัตรสอบสวน สภ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้มมีผู้บาดเจ็บถูกยิง ที่หน้าร้านบ้านคุณย่านิด ถนน.ประชาวิธี เขตเทศบาลตำบลโคกสำโรง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พบบริเวณดังกล่าวมีประชาชนจำนวนมากยืนจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ และได้พบกับนายธนัส มิ่งศักดิ์ศรี อายุ 49 ปี สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง กางเกงยีนต์ ที่ด้านหลังมีเลือดไหลเปื้อนเสื้อ เมื่อเปิดดูพบว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ที่แผ่นหลังจำนวน 3 นัด มีหัวกระสุนปืนคาอยู่ทีแผ่นหลัง ก่อนที่นายธนัสจะเดินขึ้นรถกู้ภัยฯ ไปโรงพยาบาลโคกสำโรง เหมือนว่าตนเองไม่ได้ถูกยิง และบาดเจ็บ
จากการตรวจสอบ และจากพยานในที่เกิดเหตุ พบว่ามือปืนได้จอดรถรอนายธนัสที่ฝั่งตรงข้ามร้านเมื่อนายธนัสขับจักรยานยนต์มาจอดคนร้ายได้เดินปรี่ประกบหลังรัวยิง 3 นัด ก่อนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ตฬ-5012 กรุงเทพมหานครหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรงแจ้งสกัดจับ แต่ยังไร้วี่แวว จนเมื่อเวลา 22.20 น. ร.ต.อ.วีระพันธ์ ชื่นชม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ ที่กถนนพลโยธิน 1 ฝั่งเข้าเมือง ต.นิคมสร้างตนเอง ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายจำนวน 1 ราย ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย เสาไฟฟ้าส่องสว่างหักโค่น อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้งนำตัวส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช เมื่อพนักงานสอบสวนเดินทางมาถึงพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถยนต์คันที่ก่อเหตุยิงแล้วหลบหนี ที่โคกสำโรงเมื่อช่วงค่ำ จึงได้วิทยุแจ้งตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองลพบุรี รุดอายัดตัวไว้ก่อน
ตำรวจสายตรวจยังเดินทางไปถึง รพ.กู้ภัยฯ ที่นำตัวส่งได้วิทยุบอกตำรวจว่าคนเจ็บหลบหนีออกจาก รพ.ไปแล้ว จึงได้กระจายกำลังออกติดตามด้วยความระมัดระวังเนื่องจากผู้ที่หลบหนีมีอาวุธปืน ผ่านไปประมาณ 20 นาทีก็พบตัวนายบุญชู เกิดศรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 4 ต.บึง อ.ศรีราชา ชลบุรี ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนควบคุมตัวส่ง รพ.เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุมา พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ได้ค้นรถยนต์พบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกตกอยู่ที่พื้นรถ กระสุนปืน 23 นัด และปลอกกระสุนปืนอีก 3 ปลอก จึงรวบรวมไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุได้มีกู้ภัยฯ จาก อ.พระพุทธบาทสระบุรีเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ แจ้งว่ารถคันดังกล่าวเฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหายเขตสระบุรี ก่อนหลบหนีมาประสบเหตุ ชนเกาะกลางเสาไฟฟ้าจนพังราบ ซึ่งกู้ภัยฯ เล่าว่ารถยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วกว่า 170 กิโลเมตต่อชั่วโมง
ด้านนานอาณัติ ถึงเพ็ชร อายุ 33ปี กู้ภัยฯ ที่นำคนเจ็บมาส่งเล่าว่าตนเองไม่ทราบว่าผู้บาดเจ็บสลบอยู่ในรถเป็นเวลานาน ลักษณะคล้ายคนเมา และมีอาการบาดเจ็บไม่คิดว่าจะหลบหนีออกจาก รพ.ได้ และไม่ทราบว่าเป็นมือปืนที่หลบหนีมา จากการสอบถามในเบื้องต้นจากนายบุญชูผู้ก่อเหตุเล่าพอใจจับใจความได้ว่า ตนเองขายอาหารตามสั่งอยู่ที่ตลาดอำเภอบ้านหมี่ โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจากนายธนัส หรือแนน ผู้ที่ถูกยิงที่เปรียบเสมือนลูกพี่ที่มีพระคุณ ให้เช่าพื้นที่ขายของในราคาย่อมเยาว์ ก่อนที่ตนจะลงมือก่อเหตุยิงลูกพี่ผู้มีพระคุณ เมื่อ 6 เดือนก่อนเห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างเมียตนกับนายแนน ในห้องเก็บของ สองต่อสอง ต่อหน้าต่อตา ตนเองพยายามข่มใจและเก็บสะสมความแค้นนี้มานาน ก่อนไปหาซื้อปืนมาได้จนมาถึงวันนี้ได้ตัดสินใจลงมือก่ออเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ตำรวจ สภ.เมือง สภ.โคกสำโรง ได้อายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าโดยไตรตรอง พกพาอาวูธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย และเมาขณะขับรถ
ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ลพบุรี