เมื่อเวลา 08.30 ของวันที่ 20 ก.พ.2567 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลโคกตูม อ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งประชาชน และครู รร.ซอย 3 ว่าได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่า ลุกลามติดไร่อ้อยข้างโรงเรียนซอย3 สาย 4ซ้าย บ้านหนองแกเดื่อย ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงได้รุดเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงใกล้เคียงเพื่อช่วยระดมดับไฟ

ที่เกิดเหตุบริเวณโรงเรียนมีกลุ่มควันปกคลุม พวยพุ่งพื้นที่รอบๆ วัดศรีวัฒนาวาส และโรงเรียนสาย 3 ที่มีเด็กๆ เล็ก เด็กประถม มัธยม ครูที่กำลังเรียนสอน ต่างวิ่งหนีออกจากรั้วหน้าโรงเรียน ชุลมุนวุ่นวาย เสียงร้องระงมด้วยความตื่นตกใจกลัว โดยมีประชาชนคอยอำนวยความสะดวกปิดกันการจราจรป้องกันเหตุซ้ำซ้อน ให้เด็กๆ วิ่งหนีควันไฟ เถ้าถ่าน จนมองไม่เห็นทาง เด็กๆ ครู หลายรายวิ่งออกมานอกถนนเพื่อหาสูดอากาศหายใจ เนื่องจากต้องอดกลั้นหายใจมานาน หายใจไม่เต็มปอดมานานกว่า 10 นาที ซึ่งกลุ่มควันก็ยังปกคลุมอยู่ไม่จาง

รถน้ำดับเพลิงใช้เวลากว่า 20 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ไม่ลุกลาม แต่ก็ส่งผลให้รั้วโรงเรียนถูกไฟไหม้เสียหายเล็กน้อย ไร่อ้อยติดรั้วโรงเรียนถูกเผาผลาญไปหลายสิบไร่ มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งหนีชนกันเอง ชนสิ่งของบาดเจ็บเล็กน้อยหลายสิบคน และมีเด็กนักเรียนที่นำส่ง รพ. เนื่องจากมีประหวัดเป็นโรคหอบหืด หายใจไม่อิ่มอีกหลายราย สำลักควันไฟ แสบตา หลังจกาเพลิงสงบทางโรงเรียนได้ประกาศหยุดการเรียนการสอน ให้ผู้ปกครองมารับบุตรหลานกลับบ้านทันที เพราะทุกห้องของโรงเรียนถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน และเหม็นควันไฟ

คุณนิพนต์ บุญกอง เจ้าของคลิป และเป็นผู้ปกครองเด็กนักเรียน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าช่วงก่อนเกิดเหตุทราบว่ามีคนมาตกปลาที่สระน้ำใกล้กับโรงเรียน แล้วจุดไฟเผาป่ารอบสระ จนเกิดลุกลามติดไร่อ้อย ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีลมกรรโชกแรง ไม่สามารถดับได้ทันเพลิงได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนเองวิ่งไปบอกครูให้นำนักเรียนออกมาจากห้องรวมกันที่กลางสนามไว้ก่อน แต่เนื่องกจากลุ่มควันเริ่มหนาเด็กครู หายใจไม่ออกต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดกันคนละทิศละทาง บางรายถอดรองเท้า ถอดเสื้อปิดปากจมูก ร้องระงมด้วยความตื่นตกใจกลัว โดยเฉพาะเด็กอนุบาล บางรายกรูกันออกมาบนถนนจนต้องให้ชาวบ้านปิดการจราจร พระ เณรที่วัดศรีวัฒนาวาสก็ทนไม่ไหวต้องวิ่งออกมาจากวัด เพื่อสูดอากาศหายใจ และช่วยเด็กนักเรียน

ด้านคุณครูมด (ครูธุรการ) เล่าว่าช่วงเกิดเหตุชุลมุนมาก สงสารเด็ก ร้องให้สำลักควันและไม่รู้ว่าจะไปหลบกันตรงไหน เพราะมีแต่ควันและเถ้าถ่านจนมองกันไม่เห็น สงสารเด็กเล็กกว่า 85 คน ที่ล้มลุกคลุกคลาน เด็กประถมกว่า 160 คน และเด็กมัธยมอีกกว่า 80 คนบุคลากร 19 คน ก็ตกใจไม่ต่างกัน เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เหตุการณ์นี้นานกว่า 20 นาที เดชะบุญดับเพลิงได้ทันเพราะไฟกำลังลุกลามจะถึงห้องครัวที่มีถังแก๊สจำนวนมาก รั้ว รร. ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งทราบว่าเจ้าของไร่อ้อยได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวผู้ก่อเหตุ จึงอยากวิงวอนขอร้องเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าของไร่อ้อย ชาวบ้านอย่าได้จุดไฟเผาป่า เผาไร่อ้อยอีกเลย เพราะมลพิษต่างๆ นอกจากจะส่งผลกระทบกับชุมชนโดยรวมแล้ว ครู นักเรียน พระเณร ในชนบทต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

กฤษณ์ สนใจ ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ลพบุรี