ด.ญ.ภัทรศยา-ด.ญ.รุ่งอรุณ เสียชีวิตทั้งคู่ โดนคนเมาขับกระบะพุ่งชน

ด.ญ.ภัทรศยา-ด.ญ.รุ่งอรุณ เสียชีวิตทั้งคู่ โดนคนเมาขับกระบะพุ่งชน

วันที่ 18 ก.พ.ร.ต.อ มานิตย์ ศิริเวช รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยวังกรูดสตึก

ที่เกิดเหตุเป็นถนนกำลังก่อสร้างเส้นสตึก จอมพระ บริเวณบ้านแสงจันทร์ ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พบศพ ด.ญ.ภัทรศยา หรือน้องปลาย อินแปง อายุ 12 ปี (คนขับรถจักรยานยนต์) และด.ญ.รุ่งอรุณ เยวรัมย์ อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.10 ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ (คนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์) ทั้ง 2 คน เป็นนักเรียนชั้นป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.สตึก

สภาพร่างกายบริเวณศรีษะมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง แขนขาหัก เสียชีวิตทั้ง 2 คนในที่เกิดเหตุ ห่างกันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮ้อนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน ขนน 769 พระนครศรีอยุธยา อยู่ข้างทางในสภาพพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณห่างกันพบรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีดำ หมายเลขทะเบียน บว - 9955 บุรีรัมย์ (เลขทะเบียนประมูล) สภาพด้านหน้ารถได้รับความเสียหายตกอยู่ข้างถนน ทราบต่อมาคนขับคือ นายบรรจง ยินดีรัมย์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 405 ม.12 ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาวัดปรากฏว่าพบมีปริมาณแอลกอฮอล์ 107 มิลกรัมเปอร์เซ็นต์ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.สตึก ต่อถึงเวลาก่อนเกิดเหตุ

น.ส.ปรัศนียาภรณ์ แซ่ฮ้อ อายุ 40 ปี เจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ เล่าว่า ขับรถอยู่หลังรถจักรยานยนต์ ของเด็กที่เสียชีวิต ช่วงนั้นสังเกตเห็นรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุแซงรถคันอื่นมา 3 คันรวด โดยที่ไม่สนใจใคร จากนั้นได้ข้ามเลนพุ่งชนประสานงารถจักรยานยนต์ของเด็กที่วิ่งสวนมาอย่างจังจนเสียงดังสนั่น จนร่างเด็กทั้ง 2 คน ลอยกระเด็นออกไปคนล่ะทิศคนละทาง หลังเกิดเหตุเห็นลุงคนขับกระบะถือขวดเบียร์เดินเซไปมาเหมือนคนเมา แล้วมานั่งกราบศพเด็ก และนั่งเฝ้าศพเด็กที่เสียชีวิต

โดยในเวลาต่อมาญาติของเด็กได้มาถึงที่เกิดเหตุต่างร่ำไห้ด้วยความเสียใจ โดยเฉพาะ นางเสาวนีย์ อินแปง อายุ 35ปี แม่ของน้องปลาย ที่เห็นภาพลูกแล้วรับกับเหตุการณ์ไม่ได้

พร้อมกับเล่าว่าลูกสาวบอกว่าจะออกไปซื้อของใช้และจะไปกินส้มตำกับเพื่อน ขออนุญาตแม่ขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน จึงให้ไปเพราะอยู่ไม่ไกล ไม่คิดว่าจะมาถูกคนขับรถเมาแล้วขับพุ่งชนจนเสียชีวิตอย่างอนาถอยู่กลางถนน

ขณะที่ลุงคนขับรถยนต์กระบะ เล่าเสียงอ้อแอ้ ว่ากินเบียร์มาตั้งแต่เช้า ก่อนเกิดเหตุจะไปดื่มเบียร์ต่อที่บ้านญาติอีกหมู่บ้านหนึ่ง และแวะซื้อเบียร์ติดรถมาดื่มบนรถอีก 1 ขวด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขับแซงรถยนต์ ที่อยู่ด้านหน้า 3 คันรวด ยอมรับว่าไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่เด็กขับสวนทางมาจึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง ทั้งนี้ยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเมาแล้วขับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ