เจ้าของรถเปิดใจ ช่างรื้อจนพัง ประกอบคืนไม่ได้ แถมเรียกเงินค่าแรงเกือบหมื่น

เจ้าของรถเปิดใจ ช่างรื้อจนพัง ประกอบคืนไม่ได้ แถมเรียกเงินค่าแรงเกือบหมื่น

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าวได้โพสเรื่องราวเจ้าของรถได้นำรถไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่ง ใน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยข้อความระบุว่า ทุเรศมาก แค่เติมน้ำมันเครื่องเกิน ช่างรื้อจนพัง ประกอบคืน ไม่ได้ จากรถขี่ได้ กลายเป็นเศษเหล็ก จากราคา 250,000 เหลือทั้งคันแค่หมื่นเดียว ช่วยแชร์ให้ความคิดเห็นหน่อย แบบนี้ก็มีเหรอ ค่ารื้ออย่างเดียว 8,000 แถมเราต้องเสียค่าขนย้ายเปลี่ยนศูนย์ซ่อมเอง รื้อออกประกอบคืนไม่ได้ อย่างนี้ก็มีด้วย พิกัดร้าน อู่ซ่อมแห่งหนึ่งใกล้ปั๊มบางจาก ใน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

โดยนายไพรัช ประเสริฐ อายุ 49 ปี เจ้าของรถ เปิดเผยว่า รถของตนเป็นรถฟอร์ดเฟสต้าสีขาว โดยวันเกิดเหตุตนได้ขับรถไปที่บริเวณปั้มน้ำมันใกล้เคียงอู่ซ่อมรถ ตนได้ให้ทางเด็กปั้มเติมน้ำมันเครื่องรถให้ แต่ปรากฏว่ารถเกิดอาการน้ำมันเครื่องล้น จนรถมีปัญหาแล้วตอนนั้นไปดับหน้าอู่ช่างตี๋พอดี ตนจึงได้ให้ทางช่างตี๋ดูอาการให้ จึงได้พูดคุยตกลงกันโดยช่างบอกว่าถ่ายน้ำมันเครื่องออกและเติมเข้าไปใหม่ แต่พบว่ารถเกิดมีอาการอย่างอื่น ทางช่างก็เสนอว่าต้องรื้อดูรถว่ามีอะไรเสียหายบ้าง ตนก็ตกลงให้ช่างรื้อดู วันต่อมาทางช่างได้โทรมาแจ้งว่ามีอะไรเสียหายบ้างและให้มาดูที่อู่ แต่พอมาถึงที่อู่ก็พบว่ารถตนนั้นโดนรื้อรถจนคล้ายซากรถ ตนเห็นก็ตกใจมาก พอช่างแจ้งรายการมารายการซ่อมราคาก็ 4 หมื่นบาท หากเปลี่ยนเครื่องก็ 8 หมื่นเพราะเครื่องใกล้พัง ตนก็มาคิดว่าทำไมแค่น้ำมันเครื่องล้นแล้วทำไมมันลามจนรถตนพังเสียหายขนาดนี้ ทั้งๆที่ตนใช้ทุกวันก็ขับขี่อยู่ทุกวันก็ไม่เคยมีปัญหา ตนจึงตัดสินใจไม่ซ่อมและจะเอารถกลับ จึงได้ให้ช่างประกอบคืนให้ แต่ทางช่างแจ้งว่าประกอบคืนไม่ได้ หากประกอบคืนจะคิดเงินเพิ่มอีก 3 หมื่นบาท ตนก็ตกใจมากทำไมถึงแพงขนาดนั้น ซึ่งระหว่างนั้นก็โดนคิดค่าช่างและค่ารื้ออีก 8 พันบาทอีก ตนจึงได้ต่อรองเหลือ 5 พันบาทและได้นำรถสไลด์มายกรถไปที่อู่อื่น ส่วนเรื่องที่ลูกสาวตนไปโพสโซเชียลนั้นตนไม่ทราบจริงๆว่าไปโพสว่าอะไร แต่อย่างไรก็ตามส่วนที่ตนติดใจนั้นว่าแค่น้ำมันเครื่องล้นทำให้รถพังเสียหายขนาดนี้ตามที่ช่างแจ้งตนคิดว่าไม่น่าจะเสียหายขนาดนี้ ส่วนรื้อรถตนก็ไม่สามารถประกอบคืนได้อีก แถมยังคิดเงินเพิ่มอีกด้วย เรื่องนี้ก็คงเป็นอุทาหรณ์หากซ่อมรถก็คงต้องเลือกอู่ให้ดีหรือดูช่างที่มีประสบการณ์มากกว่านี้

ด้านนายไพโรจน์ ปิ่นสุวรรณ อายุ 58 ปี เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า ตอนแรกได้มีการติดต่อมาจากทางเจ้าของรถตนก็ขับรถไปดูใกล้เคียงกับอู่ พอมาดูสภาพรถก็พบว่าเป็นปัญหาที่น้ำมันเครื่องมันเต็มจนล้น ส่วนที่พบอีกอันคือน้ำมันเกียร์นั้นไม่มี หลังจากนั้นก็ได้ทำการถ่ายน้ำมันเครื่องที่ล้นออกแล้วเติมเข้าไปให้ใหม่ โดยให้สมดุลกับตัวรถหลังจากนั้นก็สตาร์ทรถดูก็มาพบปัญหาคือเครื่องน็อก แหวนหัก แล้วก้านสูบยืด ตนจึงได้ตรวจสภาพพรถโดยการรื้อออกมาดูปัญหาภายในรถ พอรื้อก็พบว่าเป็นอย่างที่ตนคำนวณไว้ หลังจากนั้นตนก็มีการพูดคุยกับทางเจ้าของรถว่าก้านคด แหวนหัก ถ้าจะซ่อมหรือเปลี่ยนตนก็คิดไปในราคา 5 หมื่นบาท แต่ทางเจ้าของรถก็บอกว่าไม่มีเงินในการซ่อม ตนก็เลยเสนออีกอย่างคือเปลี่ยนเครื่องเลยไหมเพราะตนตรวจสภาพแล้วเครื่องรถก็ช้ำมาก ตนจึงเสนอไปว่าเปลี่ยนเครื่อง 8 หมื่น ทางเจ้าของรถจึงบอกว่าไม่มีเงินเปลี่ยนและขอนำรถกลับก่อนเพราะไม่มีเงินเปลี่ยนและซ่อม วันต่อมาทางเจ้าของรถจึงได้นำรถสไลด์มาเอารถที่อู่ ตนจึงได้คิดค่าช่างและตรวจสอบรถไป 8 พันบาท แต่ทางเจ้าของต่อรองจึงเหลือ 5 พันบาท ตนจึงตกลงให้ทางเจ้าของรถนำรถกลับไป พอมาวันนี้ตนก็ไปพบโพสว่าทางเฟสบุ๊คคาดว่าน่าจะญาติกับเจ้าของรถหรือโลกโซเชียลก็ได้นำภาพนั้นที่เป็นรถที่ตนซ่อมจอดอยู่ในอู่ตนเองและต่อว่าทางอู่ทำรถพัง รื้อรถจนพังและคืนสภาพไม่ได้ แถมคิดราคาแพงอีก ตนก็งงว่าตนก็ได้ตกลงกับเจ้าของรถไปแล้ว ตนผิดอะไร ที่พูดมาก็ไม่เป็นความจริงเลย ตนจึงมองว่าเป็นการประจานอู่ตน จนทำให้ได้รับความเสียหาย จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักแถมยังไปแจ้งความตนด้วย อย่างไรก็ตามตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนก็ขอสู้คดีนี้เพราะอย่างที่ตนบอกตนไม่ได้ผิดอะไร

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนครราชสีมา รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ