รวบหนุ่มอ้างชื่อวัยรุ่นสร้างตัว หลอกขายจยย.ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก ค้นประวัติช็อก รอดคุกมาได้ไง

รวบหนุ่มอ้างชื่อวัยรุ่นสร้างตัว หลอกขายจยย.ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก ค้นประวัติช็อก รอดคุกมาได้ไง

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายมนัสวีฯ อายุ 26 ปี ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเสียหายแก่ประชาชน สถานที่จับกุม บ้านพักคนงาน ไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ม.1 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

พฤติการณ์ เมื่อปี 2565 ขณะที่ผู้เสียหายนั่งอยู่ที่บ้านเล่นเฟซบุ๊กอยู่ ได้พบว่าเพจมาร์เก็ตเพลส ซึ่งมีสมาชิกผู้ติดตาม 34,267 คนและเปิดสาธารณะซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถมองเห็นได้ มีการลงขายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก 125 สีขาว ในราคา 18,900 บาท โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เอสเคซี วัยรุ่นสร้างตัว และเมื่อผู้เสียหายเห็นโพสต์สนใจที่จะซื้อ จึงได้ทักแชทเข้าไปสอบถามในข้อความของเฟซบุ๊กดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดตอบเวลาต่อมาทางเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้ตอบแชทข้อความของผู้เสียหายโดยแจ้งว่า มีรถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายสอบถาม ขายในราคา 18,900 บาท ผู้เสียหายได้สอบถามว่าขณะนี้รถจักรยานยนต์อยู่ที่ไหน จะดูรถได้อย่างไร และลดราคาได้อีกหรือไม่ ทางเฟซบุ๊กดังกล่าวแจ้งว่าตอนนี้รถดังกล่าวอยู่ที่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ผู้เสียหายจึงได้สอบถามไปว่าจะสามารถซื้อรถได้อย่างไร และลดราคาได้อีกหรือไม่ ทางเฟซบุ๊กดังกล่าวจึงลดราคาให้เหลือ 17,500 บาท และจะเป็นผู้จัดส่งให้

แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ซื้อต้องวางเงินมัดจำ จำนวน 2,500 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี มนัสวีฯ (บัญชีผู้ต้องหา) โดยแจ้งอีกว่าหากโอนเงินแล้วให้ส่งสลิปไปทางกล่องแชทข้อความ โดยยังยืนยันว่า หากผู้เสียหายเห็นรถจักรยานยนต์แล้วไม่พอใจ ทางผู้ขายยินดีจะคืนเงินมัดจำพร้อมรับถจักรยานยนต์คืน ผู้เสียหายจึงตอบตกลง ก่อนที่จะโอนเงินมัดจำ จำนวน 2,500 บาท ไปยังบัญชีดังกล่าว ขณะที่ผู้ขายก็แจ้งรับยอดและแจ้งว่าวันรุ่งขึ้นจะจัดส่งรถจักรยานยนต์ให้ทันทีแต่แล้ววันต่อมา ผู้ขายได้ทักแชทมาอีกครั้ง พร้อมแจ้งว่า ผู้ขายต้องไปทำเล่มเขียวเพื่อโอนจากชื่อเจ้าของเดิมเป็นชื่อของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายจะต้องจ่ายค่าจัดทำเป็นเงิน 1,000 บาท พร้อมกับถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนหน้าและหลังส่งไปให้ ทางผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินอีกครั้ง ไปยังธนาคารเดิม(ของผู้ต้องหา) จากนั้นได้ส่งสลิปกลับไปแจ้งเช่นเดิม แต่ผู้ขายยังอ้างว่าจำนวนเงินดังกล่าวไม่พอทำเล่มเขียว ผู้เสียหายต้องจ่ายเพิ่มอีก 500 บาท เพื่อไปเอาเล่มเขียว ผู้เสียหายก็หลงเชื่อโอนไปอีกครั้งที่ธนาคารเดิมและได้แจ้งสลิปกลับไปทุกครั้ง

คราวนี้ผู้ขายอ้างว่าได้รับยอดและแจ้งว่าจะจัดส่งรถจักรยานยนต์ในวันถัดไป ให้ผู้เสียหายรอรับรถจักรยานยนต์ที่บ้านได้เลย แต่แล้วเมื่อถึงกำหนด กลับไม่มีรถมาส่งตามที่กล่าวอ้าง ผู้เสียหายจึงทักไปหาผู้ขาย พบว่ามีการอ่านแต่ไม่ตอบ ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้ และเฟซบุ๊ก บัญชีผู้ขายที่ชื่อ เฮสเคซี วัยรุ่นสร้างตัว ได้ออกจากกลุ่มมาร์เก็ตเพลส ทันที ทำให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก เป็นเงินรวม 4,000 บาท จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ก่อนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับ นายมนัสวี ฯ ชื่อบัญชีรับโอนเงินดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่สืบสวน กระทั่งทราบว่า นายมนัสวีฯเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ปรากฏตัวอยู่แถวที่พักคนงาน ในพื้นที่ จ.สงขลา จึงเข้าไปตรวจสอบ พบนายมนัสวี ฯ จึงแสดงตัวพร้อมทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อบันทึกการจับกุม พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อนึ่งผู้ต้องหานี้ ตรวจสอบยังมีหมายจับของ สภ.ป่าตอง และ สภ.ฉลอง ในข้อหาเดียวกันอีก รวม 3 หมายจับ

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น สารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุว่าตัวเองมีเพื่อนชื่อแบงค์ ไม่ทราบชื่อสกุล มาขอยืมใช้บัญชีเพื่อแลกกับเงินค่าติดเป็นจำนวน 800 บาท เพื่อนำไปหลอกลวงขายรถจักรยานยนต์ในกลุ่มซื้อขายของในเฟซบุ๊ก รวมทั้งนำเงินไปเที่ยวเตร่ อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ