ทำความรู้จัก การครอบครองปรปักษ์ ข้อกฎหมายที่ควรรู้ไว้ จะได้ไม่เสียทรัพย์

ทำความรู้จัก การครอบครองปรปักษ์ ข้อกฎหมายที่ควรรู้ไว้ จะได้ไม่เสียทรัพย์

การครอบครองปรปักษ์ เดิมถูกตราขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มีที่ดินจำนวนมาก หรือ มีที่ดินแต่ไม่ได้ดูแล และปล่อยให้รกร้าง เป็นที่น่าเสียดาย หากมีผู้ต้องการที่ดินเข้ามาทำประโยชน์เป็นเวลานานกว่า 10 ปี โดยที่เจ้าของที่ดินก็ไม่ได้ทักท้วงหรือขับไล่ ก็จะทำให้ผู้นั้นได้กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ เนื่องจากกฎหมายต้องการให้ประชาชนใช้ที่ดินเพื่อทำประโยชน์นั่นเอง

ซึ่ง การครอบครองปรปักษ์ ก็กลายเป็นประเด็นร้อนสะเทือนโซเชียลจนได้ จากกรณีคู่รักคู่หนึ่งที่เข้าไปพบว่าบ้านจัดสรรที่ได้รับเป็นของขวัญแต่งงาน มีคนเข้าไปอยู่อาศัย พร้อมต่อเติมบ้านจนสภาพผิดไปจากเดิม ต่อมาผู้บุกรุกก็อ้างว่าอยากซื้อบ้านหลังนี้มานาน แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมยกเหตุผลเรื่อง การครอบครองปรปักษ์ ขึ้นมา ซึ่งทำให้หลายคนมีความสงสัยในข้อกฎหมายการครอบครองปรปักษ์ดังกล่าว

การครอบครองปรปักษ์ คือ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ และมักจะก่อให้เกิดข้อพิพาทอยู่เสมอ โดยการครอบครองปรปักษ์ถูกบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ระบุว่า บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์

ดังนั้น เจ้าของบ้านและที่ดินควรพึงระวังและตรวจตราทรัพย์สินของตัวเองอยู่เสมอ เพราะถ้าเจ้าของปล่อยที่ดินหรืออสังหาทิ้งไว้เปล่า ๆ แม้จะมีโฉนดเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าที่ดินของเราจะปลอดภัย ไม่มีคนเข้ามาจับจองเป็นของตัวเอง

6 ข้อควรรู้ก่อนที่ดินตกไปเป็นของคนอื่น

1. การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เท่านั้น เช่น โฉนด โฉนดตราจอง หรือเอกสารกรรมสิทธิ์ประเภทอื่น ที่ดินที่มีเพียงสิทธิครอบครองจะไม่สามารถครอบครองปรปักษ์ แม้จะครอบครองนานแค่ไหนก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์

2. หากเป็นผู้เช่า ไม่ถือว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ เพราะเป็นการทำสัญญาเช่าอาศัยหรือใช้ประโยชน์ในที่ดิน

3. การครอบครองนั้นต้องทำโดยเปิดเผยและสงบ หรือเป็นการครอบครองที่ไม่ได้มีการข่มขู่ ใช้กำลัง หลอกลวง และไม่มีใครหวงห้ามกีดกันในการแสดงความเป็นเจ้าของหรือฟ้องร้องขับไล่

4. ผู้ครอบครองปรปักษ์ครบ 10 ปี ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 แล้ว แม้ศาลจะยังไม่ได้มีคำสั่งว่าผู้ครอบครองได้กรรมสิทธิ์ หากมีบุคคลใดโต้แย้งสิทธิของผู้ครอบครองเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าว ผู้ครอบครองมีอำนาจฟ้องได้ (อย่างไรก็ตามเพื่อความสมบูรณ์ในผลของกฎหมายควรดำเนินการร้องศาลเพื่อจดทะเบียนสิทธิ์) 5. หากเจ้าของที่ดินอนุญาตให้ใช้ประโยชน์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร จะไม่ถือว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์

6. ผู้ซื้อที่อยู่ระหว่างทำสัญญาซื้อขาย ไม่นับเป็นการครอบครองปรปักษ์

วิธีการป้องกันการครอบครองปรปักษ์สำหรับเจ้าของที่ดินนั้น ทำได้ดังต่อไปนี้

1. ไปตรวจตราที่ดินอยู่เสมอ ว่ามีใครเข้ามายุ่งหรือใช้ประโยชน์กับที่ดินของเราหรือไม่

2. ติดป้ายหรือล้อมรั้วกั้นเขตแดนให้ชัดเจน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในที่ดินหรืออสังหาริมทรพย์นั้น

3. ทำธุรกรรมกับกรมที่ดินเป็นครั้งคราว เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าของที่ดินกับภาครัฐ

4. ให้รีบคัดค้านหากพบผู้อื่นเข้ามาครอบครอง เพื่อยืนยันความไม่สมยอมในการให้ผู้อื่นครอบครองพื้นที่

5. ใจเย็นและอดทน แม้จะต้องใช้เวลา แต่ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษา เจ้าของที่ดินก็ยังจัดการได้เสมอ

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ