เมื่อวันที่ 16ม.ค.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่หอพระและสมาคมกู้ภัยแม่โจ้พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ออกตรวจสอบอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถเหตุเกิดบนถนนสายเชียงใหม่-พร้าว ก่อนถึงโรงเรียนแม่หอพระ ต.แม่หอพระอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุพบรถแอมบูแลนซ์ของโรงพยาบาลพร้าว ทะเบียน ขว 6072 เชียงใหม่ชนเสียบท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ด้านหลังบรรทุกเหล็กเส้นท่อเหล็กท่อ PVC มาเต็มลำ น้ำหนักหลายตัน ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่นั่งด้านหน้าของรถพยาบาล พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายเป็นคนขับ 1 ราย และคนที่นั่งโดยสารข้าง ๆ คนขับอีก 1 ราย ร่างติดอยู่ในซากยานพาหนะ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถเพื่อนำร่างออกมาจากตัวรถ

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือนายพิษณุ ใจลึก อายุ 56 ปี คนขับรถรพ.พร้าว และนางอำพร จองคำแหลง อายุ 59 ปี พยาบาลวิชาชีพประจำห้องฉุกเฉิน รพ.พร้าว ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อยี่ห้อ Hino ทะเบียน 83-4264 เชียงใหม่ มีนายพนาสันต์ อายุ 69 ปี เป็นคนขับ โดยนายพนาสันต์ ได้เล่านาทีเกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุรถของตนได้จอดเสีย ยางหน้าซ้ายระเบิดอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้หักกิ่งไม้เอาไปวางห่างจากตัวรถ เพื่อส่งสัญญาณให้รถที่ขับมาตามถนนได้ทราบแล้วว่ามีรถเสียจอดอยู่ด้านหน้าและเมื่อพระอาทิตย์ตกดินถนนก็เริ่มมืดจากนั้นรถพยาบาลก็ขับมาด้วยความเร็วและคาดว่าน่าจะไม่เห็นสัญลักษณ์ที่ตนทำไว้ตนก็พยายามจะให้สัญญาณมือโบกรถแต่คนขับก็เบรคไม่ทันทำให้ชนเสียบท้าย

ขณะที่นายผดุงศักดิ์เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนแรกที่มาถึงที่เกิดเหตุได้เปิดเผยว่าหลังรับแจ้งเหตุก็ได้รีบมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เมื่อมาถึงก็พบว่า มีคนขับรถตู้และคนที่โดยสารมานั่งข้าง ๆ ติดอยู่ในซากรถไม่สามารถนำออกมาได้ ซึ่งเมื่อทำการตัดถ่างเสร็จก็พบว่าคนในรถถูกอัดก็อปปี้จนเสียชีวิตโดยถนนสายดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทางหลักที่เดินทางระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังอำเภอพร้าว และในช่วงกลางคืนก็จะมืดเป็นอย่างมาก โดยที่เกิดเหตุนั้นเป็นทางตรงและทางขึ้นเนินคาดว่ารถคันที่เกิดเหตุน่าจะใช้ความเร็วพอสมควร

อย่างไรทางในเบื้องต้นสาเหตุทราบว่ารถพยาบาลของโรงพยาบาลพร้าวได้กลับมาจากการส่งต่อผู้ป่วยและกำลังจะมุ่งหน้ากลับโรงพยาบาลแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเสียก่อนซึ่งทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่แตงได้อายัดรถคันที่เกิดเหตุทั้ง 2 คันไปเก็บรักษาไว้ที่ลานจอดรถของโรงพักก่อนที่จะมีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมทั้งดำเนินการเคลียร์พื้นที่เพื่อให้รถสามารถสัญจรได้ตามปกติ