หมอ เล่าอุทาหรณ์ ยุงมันร้ายกว่าเสือ คนเป็นไข้เลือดออก บางรายถึงขั้นเสียชีวิต

หมอ เล่าอุทาหรณ์ ยุงมันร้ายกว่าเสือ คนเป็นไข้เลือดออก บางรายถึงขั้นเสียชีวิต

พญ.ณัฐกานต์ ชื่นชม อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เล่าอุทาหรณ์โรคไข้เลือดออก โดยระบุว่า

หลายวันมานี้ได้ยินข่าวคนนั้นคนนี้เป็นไข้เลือดออก

บางคนมีอาการหนัก..น่าเสียดายบางคนเสียชีวิต

เมื่อ 10 ปีก่อน ก่อนที่จะได้ไปเรียนเป็นหมอโรคติดเชื้อที่ศิริราช หลังทราบผลการคัดเลือกเรียนต่อไม่กี่เดือนเราก็เป็นไข้เลือดออก เริ่มต้นไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเป็น จำได้ว่าวันนั้น เป็นวันอาทิตย์อยู่เวรห้องฉุกเฉินเวรดึกก็นอนอยู่ในห้องพักแพทย์ที่มีมุ้งลวด แต่ประตูก็เปิดเข้าเปิดออกในห้องก็มียุงเยอะ ตอนเช้าเริ่มวันจันทร์ อาทิตย์นั้นเป็นโครงการสอน CPR 100% ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกระดับในโรงพยาบาลโดยเราเป็นเจ้าของโครงการ มันใช้พลังงานมากในการสอนตอนเย็นก็รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ก็กินยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ NSIADs ชนิดหนึ่งและยาคลายเส้น มาถึงวันพุธเริ่มวัดได้ไข้ต่ำๆ วันพฤหัสแย่ลงแต่คิดว่าไม่เป็นไรหรอกอาการเล็กน้อยต้องอดทนให้ครบห้าวันเพราะว่าโครงการยังไม่เสร็จ วันศุกร์ขับรถกลับบ้านที่ลำพูน วันเสาร์ทนไม่ไหวจริงๆเลยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเจาะเลือดสงสัยไข้เลือดออกตอนนั้นเกร็ดเลือดยังปกติดีอยู่

วันอาทิตย์จึงให้พ่อขับรถพากลับมาที่โรงพยาบาลแม่สอด มาถึงห้องพักอาเจียนเป็นเลือดเลย ต้องให้รถ EMS มารับที่หอ พามาส่งที่ห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นไข้ยังสูง ความดันต่ำเพราะกินไม่ได้มาหลายวันและอาเจียน เกร็ดเลือดเหลือหลักหมื่น (ปกติเกินแสนห้า) ตับอักเสบรุนแรง เอนไซม์ตับขึ้นไปถึง 3,000 อาจเป็นเพราะอาทิตย์ที่ผ่านมากินพาราเซตามอลเยอะมาก ตอนนั้นด่าตัวเองทำไมซื่อบื้ออย่างนี้ไม่ดูแลตัวเองเลย

นอนโรงพยาบาลได้สองวัน เกร็ดเลือดลดลงไปถึง 10,000 มีน้ำในช่องปอดด้านขวา นอนตะแคงขวาได้ยินเสียงน้ำกลิ้งในช่องอกดังวืดๆ มีจุดเลือดออกลายพร้อยทั้งตัว มีเลือดออกตามไรฟันทุกซี่ ตอนนั้นพี่หมออายุรกรรมทุกคนมาอ้อนวอนข้างเตียงให้รีเฟอร์ตัวเราไปโรงเรียนแพทย์ แต่เรารู้สึกว่าเรายังแข็งแรงดีอยู่เราขอนอนพักสักอาทิตย์อาการน่าจะดีขึ้น เราป้อแป้มาก แม้จะลุกนั่งหรือเดินยังไม่ไหว ต้องเช็ดตัวและสระผมบนเตียง

มีอยู่คืนนึงเรารู้สึกว่าเราอาจจะตายก็ได้นะ.. เราประมาทสุขภาพเกินไปหรือเปล่าว่าเรายังไหว แต่จริงๆแล้วเราไม่ไหวต้องไปสู่มือผู้เชี่ยวชาญ แต่จนแล้วจนรอดเราก็นอนอยู่โรงพยาบาลแม่สอดเกือบสองอาทิตย์ ตอนกลับบ้านเกร็ดเลือดยังไม่ถึงแสน เพราะว่าเรากินยาแก้ปวดกล้ามเนื้อเป็นอาทิตย์เป็นเหตุทำให้เกร็ดเลือดขึ้นช้า.. กว่าสุขภาพเราจะกลับคืนมาแข็งแรงเหมือนเดิมใช้เวลาเป็นเดือน ผมร่วงจนบาง จิตใจมันท้อแท้ไปหมด การเจ็บป่วยครั้งนั้นทำให้เรารู้ว่า การไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆเพราะตอนที่เราเจ็บป่วยไม่รู้เลยว่าความตายจะมาเยือนเมื่อไหร่

อยากฝากไว้ว่าคนที่เป็นไข้เลือดออกตอนแรกไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะเป็นหนักหรือไม่เพราะอาการมันอาจจะไม่มาก รู้สึกชิลล์ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปในช่วง 5-7 วันของโรค ตอนนั้นเหมือนต้องวัดดวงว่าเราจะเป็นเคสที่ได้รับผลแทรกซ้อนของโรคหรือเปล่า หรือเราจะเป็นเคสที่ต้องเสียชีวิต เมื่อมีผู้ป่วยเสียชีวิตก็จะมีคำถามกับตัวเองที่เป็นหมอผู้รักษาเสมอว่าทำไมอะ ทำไมเรารักษาชีวิตเขาไม่ได้ เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วจริงๆ ทั้งทางที่เราได้เตรียมการมอนิเตอร์คนไข้อย่างใกล้ชิดแล้ว ยุงมันร้ายกว่าเสือนะคะ แม้ว่าโอกาสโรครุนแรงจะน้อยกว่า

โรคไม่รุนแรง แต่หากเกิดขึ้นกับใครก็ตามย้อนเวลาไปแก้ไขไม่ทันจริงๆค่ะ อยากให้ทุกคนรักษาตัวให้ดีอย่าให้ยุงกัด ใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้ง กำจัดแหล่งลูกน้ำยุงลาย ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก และถ้ามีไข้ไม่ทราบสาเหตุภายในห้าวันให้พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจเลือดยืนยันค่ะ .. เป็นห่วงจริงๆค่ะ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ