จนมุมจนได้! หนุ่มไรเดอร์หลอกสั่งของ ขอยืมเงินร้านค้าก่อนชิ่งหนี รับทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง

จนมุมจนได้! หนุ่มไรเดอร์หลอกสั่งของ ขอยืมเงินร้านค้าก่อนชิ่งหนี รับทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง

วันที่ 10 มกราคม 2567 พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ธนิธร บุญแม้น รอง ผดก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง โดย พ.ต.ต.รัชพล เหลากลม สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง ร.ต.อ.กิติพงษ์ ยิ้มน้อย รอง สว.สส.สน.ทุ่งสองห้องและกำลังฝ่ายสืบสวนสน.ทุ่งสองห้อง ได้เชิญตัวนายสุรัตน์ชัย อายุ 45 ปี หนุ่มไรเดอร์ มาสอบสวนหลังมีผู้เสียหายระบุว่าได้หลอกสั่งของแล้วเอาเงินไป 600 บาท

ด้านนางนก (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี คนขายไอศครีมไผ่ทอง ผู้เสียหาย ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่กำลังเข็นรถขายไอศครีมอยู่ในซอยวิภาวดี 58 คนร้ายได้โบกให้จอดแล้วสั่งไอศครีมจำนวน 5 ถ้วย ถ้วยละ 25 บาท และทำทีพูดคุยตีสนิท อ้างว่าแม่ทำงานบ้านนายตำรวจที่อยู่ในซอย ขอลดราคาเหลือถ้วยละ 20 บาท ถ้าได้ก็จะสั่งบ่อยจึงยอมลดให้

จากนั้นคนร้ายทำทีโทรหาเพื่อน แล้วอ้างว่าแม่ต้องการใช้เงินด่วน ขอยืนเงิน 600 บาท และยังบอกนายสั่งเพิ่มอีก 5 ถ้วย เดี๋ยวจะสแกนคืนทีเดียวพร้อมกัน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรยอมให้ยืมเงินไป เพราะเห็นว่าขับรถสวนทางกันบ่อย ประกอบกับเขาชี้เข้าไปในบ้านนายที่กล่าวอ้าง ซึ่งบ้านนั้นเป็นบ้านนายตำรวจจริง แต่พอได้เงินไปแล้ว กลับหายตัวไปเลย จึงเดินไปถามที่บ้านนายตำรวจ ก็พบว่าถูกหลอก ไม่ได้ทั้งเงินค่าไอศครีม และเงินที่ยืม จึงมาลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.ทุ่งสองห้อง

กระทั่งเมื่อเช้า คนร้ายรายเดิมได้โทรไปยังโรงงานไอศครีม โดยอ้างว่าจะขอสั่งไอศครีม 1 ถัง ราคาประมาณ 2 พัน กว่าบาท โดยคนร้ายบอกจะให้ลูกน้องไปรับแล้วจะโอนเงินให้ส่วนเงินทอนที่เหลือให้ฝากลูกน้องกลับมา ตอนนี้เขาอยู่สโมสร ซึ่งตนเองสงสัยว่า ปกติสโมสรถ้าจะสั่งก็จะให้เราส่งเลย จึงบอกกลับไป ถ้าจะสั่งให้มาที่หน้าบ้าน จากนั้นคนร้ายก็วางสายไป

นั่นจึงทำให้พี่สาวเกิดความสงสัย เพราะก่อนหน้าตนเคยเล่าให้ฟัง จึงเอาเบอร์มาแอดไลน์ แล้วเอาให้ตนดูก็พบว่า เป็นคนเดียวกันกับที่เคยหลอกสั่งไอศครีมวันก่อน จึงได้ออกตามหาเพราะเชื่อว่าน่าจะอยู่ระแวกที่ก่อเหตุ จนเจอตัวและแจ้งตำรวจมาจับ แต่พอหลังทราบเรื่องราวต่าง ๆ ตนเองรู้สึกสงสารเพราะมารู้ว่าเขามีแม่ที่ป่วยติดเตียง ตอนนี้ไม่อยากดำเนินคดี ส่วนเงินที่เอามาคืนก็ไม่ขอรับ อยากให้กลับตัวมาทำอาชีพที่สุจริตหาเงินเลี้ยงดูแม่ที่ป่วย

จากการสอบปากคำนายสุรัตน์ชัย ยอมรับว่า เงินไม่พอใช้ วิ่งไลน์แมนมาได้ก็ต้องจ่ายค่าเช่าเสื้อไลน์แมนเดือนละ 2 พัน และต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง ยอมรับว่าเสพยาบ้าเพราะเคลียด ทำลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ในพื้นที่บางเขน และทุ่งสองห้อง เท่าที่จำได้ เคยไปสั่งบะหมี่ร้านย่านบางบัว 11 ถุง จากนั้น บอกเจ้าของร้านเดี๋ยวกลับมาเอาแต่ขอยืมเงิน 400 บาท เพื่อมาซื้อเบียร์ เพราะไม่มีเงินสด เดี๋ยวจะกลับมาเอาของพร้อมสแกนจ่ายรวมที่ยืมไปด้วย พอได้เงินมาก็ขับรถไปซื้อเบียร์โดยไม่ได้กลับไปเอาบะหมี่

ส่วนอีกราย ตนรับออเดอร์ลูกค้าสั่งข้าวมันไก่ 3 ห่อ จากวิภา 64 ไปรามอินทรา 21 พอส่งของเสร็จ ลูกค้าบอกจ้างให้ไปสั่งซื้อน้ำ 10 แก้ว เพราะมีประชุม และพอไปถึงร้านตนเองสั่งไป 11 แก้ว ซึ่งตนจ่ายไป 1 แก้วแล้วบอกว่าจะกลับมารับอีก 10 แก้วที่เหลือ จากนั้นกลับมาบอกลูกค้าเพื่อเอาเงินไปจ่าย แต่ลูกค้าขอยกเลิกบอกไม่ทันจะออกไปข้างนอก ซึ่งตอนนั้นได้กลับไปที่ร้านเพื่อขอยกเลิกออเดอร์แต่ร้านได้ทำเสร็จแล้ว ตอนนั้นตนเองรู้ว่า ลูกค้าได้ยกเลิกแล้วและตนเองก็ไม่มีเงินจ่ายจึงบอกว่าจะกลับมาเอาเงินที่ลูกค้ามาจ่ายแต่สุดท้ายก็ไม่กลับไป

ส่วนแม่ค้าไอติมเป็นรายล่าสุด ยอมรับว่า เสพยาบ้าเป็นครั้งคราว และยังเคยถูกสน.ทุ่งสองห้อง จับข้อหาชิงทรัพย์ ปี 56 ศาลตัดสิน 3 ปี 9 เดือน พอออกมาก็ทำงานเป็น รปภ. ก่อนจะออกมาเช่ารหัสไลน์แมนวิ่งรับงาน ขอโทษร้านค้าที่เคยไปสั่งของ และหลอกเอาเงินมา ที่ทำลงเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำปัสสาวะส่งตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ พบเมทแอมเฟตามีน จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดี ส่วนที่ไปก่อเหตุในพื้นที่บางเขน เบื้องต้นได้ประสานพนักงานสอบสวนหากมีผู้เสียหายก็จะให้มาอายัดไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ