เมื่อวันที่ 9 มกราคม มีรายงานว่า ร.ต.อ.ทองดี หัดที รอง สว.สอบสวน สภ.นาเชือก ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท และมีการทำร้ายร่างกายกันที่บ้านป่าโน หมู่ 5 ต.หนองเรือ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 ราย

จากนั้น ได้ประสานหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลนาเชือก และใช้รถส่วนตัว นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลนาเชือก ก่อนที่ทั้งหมด จะถูกส่งตัวต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ซึ่งมีบาดแผลถูกยิง ถูกฟัน และกระดูกแขนหัก ซึ่งสาเหตุเกิดการทะเลาะวิวาทกันในครอบครัว เรื่องเกี่ยวกับการหย่าร้าง แต่เจรจาไม่ลงตัว ทางลูกเขยจึงได้ก่อเหตุยิงคนในบ้าน และเกิดการต่อสู้กัน ขณะที่ลูกเขยก็ถูกมีดฟันหัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน

ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ภายในบ้านพบกองเลือดขนาดใหญ่ อยู่กลางบ้าน สภาพเลือดแห้งเกรอะกรัง กระจายเต็มพื้นที่ บริเวณหน้าต่างข้างบ้านแตก มีเศษกระจกตกอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว

นายปรีชา อายุ 61 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ลูกชายของตนคือ นายปิยณัฐ หรือกล้วย อายุ 37 ปี เป็นลูกเขยบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งลูกกับลูกสะใภ้มีเรื่องระหองระแหงกันมาระยะหนึ่ง มีลูกด้วยกัน 3 คน ที่ผ่านมาเคยจะหย่ากัน แต่พอไปหย่ากันที่อำเภอก็ปรากฏว่า ฝ่ายชายลืมของ อีกครั้งหนึ่งก็ฝ่ายหญิงลืมของ เลยยังไม่ได้หย่ากันสักที

นายปรีชา กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนก็อยู่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ใกล้กันกำลังหาข้าวหาปลากิน ได้ยินเสียงชาวบ้านร้องก็เลยออกมาดู ก็พบว่าคนในบ้านทั้งหมดบาดเจ็บกันหมดแล้ว โดยลูกชายคนตนถูกฟันที่ศรีษะ และมีบาดแผลตามตัวหลายแห่ง อีกคนคือป้าถูกกระสุนปืนที่หัว แม่ยายก็เจ็บหนัก ลูกสะใภ้แขนหัก พ่อตาก็เจ็บ ทุกคนบาดเจ็บหมด ซึ่งทั้งคู่เลิกกันได้ 1-2 เดือนแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้หย่ากัน สาเหตุเกิดจากเรื่องเงิน ถ้าไม่มีเงินก็ระหองระแหงกัน รายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายก็จะมีเรื่องทะเลาะกัน ต้องเสียค่านั่นค่านี่ เกิดความกดดัน จึงเกิดเรื่องขึ้น

นายประดิษฐ์ แก้ววันนา กำนันตำบลหนองเรือ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือนายกล้วย ใช้ปืนอัดลมก่อเหตุยิงคนในบ้าน กระสุนถูกป้า แม่ยาย พ่อตา และภรรยา ซึ่งตอนเกิดเหตุชุลมุนไม่มีใครรู้เรื่อง แต่พอเกิดเหตุแล้วชาวบ้านถึงไปดูกัน พอพบว่ามีคนเจ็บ ก็เรียกตำรวจ เรียกกู้ชีพมา ตนก็ได้เข้าไปดูก็เห็นกองเลือด คนเจ็บที่เป็นคนยิงก็นอนหายใจรวยรินแล้ว พวกคนเจ็บคนอื่นก็เอาขึ้นรถส่วนตัวไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะกลัวว่าจะโดนลูกหลง ตัวลูกเขยเมาเหล้า เชื่อว่าเป็นเพราะสาเหตุเรื่องชู้สาว เพราะฝั่งผู้ชายไม่ยอมหย่า อยากจะเอาทั้ง 2 คน สาวคนใหม่อยู่ที่หมู่บ้านข้าง ๆ มีลูก 3 คน ส่วนภรรยาคนนี้ก็มีลูก 3 คน

นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ทางบ้านก็ว่าจะเลี้ยงไหวหรอลูกตั้ง 6 คน ถ้าอยากจะมีภรรยาใหม่ ก็ให้เลิกกับทางนี้ ที่ผ่านมาก็มีเรื่องระหองระแหงมาประมาณ 1-2 เดือน เมื่อคืนที่ผ่านมาก็จะมาเจรจากัน ฝั่งผู้ชายไม่ยอมหย่า พอเมาเหล้า ก็อยากไปนอนบ้านเมีย แต่เมียไม่ให้นอน ชาวบ้านว่าปีนเข้าทางหน้าต่าง จนเกิดเหตุขึ้น ซึ่งทั้ง 5 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคามเพราะอาการสาหัสทุกคน

ด้าน พ.ต.อ.ณฤทธิ์ นามมาวงษ์ ผู้กำกับสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาเชือก กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านป่าโน หมู่ 5 ตำบลหนองเรือ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม หลังได้รับแจ้งเหตุร้อยเวรฯ ชุดสืบสวน และตนเองก็ได้ลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบกองเลือด และร่องรอยการต่อสู้ มีอาวุธมีด และปืนตกอยู่ โดยอาวุธปืน เป็นปืนอัดลมยาวแบบไทยประดิษฐ์ สภาพด้ามปืนและลำกล้องหลุดออกจากกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อประกอบสำนวนสอบสวน

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ นายปิยณัฐ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย ซึ่งเป็นคนใช้อาวุธปืนยาวอัดลมยิงคนในบ้าน

อีกกลุ่มคือ นางยุภาวดี อายุ 39 ปี เป็นภรรยานายปิยณัฐ นายประสิทธิ์ อายุ 73 ปี เป็นพ่อตา นางบัวลอย อายุ 72 ปี เป็นแม่ยาย และนางนิตา อายุ 40 ปี เป็นป้า ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนาเชือก และถูกส่งตัวต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม

จากการสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งได้สอบถามนายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นพ่อตา ที่ยังพอให้การได้ ทราบว่า นายปิยณัฐ ซึ่งเป็นลูกเขย ได้มาพูดคุยที่บ้านพ่อตาแม่ยาย ตกลงเรื่องการหย่ากัน เนื่องจากมีปัญหาในครอบครัว โดยนายปิยณัฐ ได้ไปมีภรรยาอีกคนหนึ่ง

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่พูดคุยกันแล้วอาจจะพูดจาไม่ลงรอยกัน นายปิยณัฐ จึงได้อาวุธปืนยาวอัดลมยิงป้าก่อน จากนั้นก็ยิงแม่ยาย จากนั้นพ่อตาก็ปิดประตูบ้าน นายปิยณัฐใช้ด้ามปืนทุบพังประตูบ้านเข้าไป ก่อนที่จะเข้าไปยิงนางยุภาวดี เมียตัวเอง และยิงพ่อตา ซึ่งปืนเป็นปืนยาวอัดลมแบบใหม่ที่ดัดแปลง อัดลมครั้งเดียวสามารถยิงลูกกระสุนออกมาได้เป็น 10 นัด

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็มีการต่อสู้กันภายในบ้าน ส่วนคนที่ใช้มีดฟันศรีษะของนายปิยณัฐ จากคำให้การก็เป็นแม่ยาย บาดแผลของนายปิยณัฐที่เกิดจากการต่อสู้ มีประมาณ 11-12 แห่ง ส่วนอีก 4 คนถูกยิงหมดทุกคน ตัวป้าถูกยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผ่าตัด ตัวนางสุภาวดี ภรรยาผู้ก่อเหตุ แขนข้างซ้ายหัก แม่ยายแขนขวาหัก คาดว่าจะถูกด้ามปืนตี

ส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่หนักมาก คือ นายประสิทธิ์ พ่อตา ส่วนอีก 4 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หนักสุด 2 คน คือป้า และนายปิยณัฐ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาใครได้ เพราะยังไม่ได้สอบปากคำใครเลย เพราะทุกคนได้รับบาดเจ็บกันหมด คงต้องรอให้อาการทั้งหมดดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลมาก่อน